เฟซบุ๊กเตรียมปรับข้อตกลงผู้ใช้ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากสหภาพยุโรปผ่านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทั่วโลก
ในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) สหภาพยุโรปเตรียมออกกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะจำกัดไม่ให้บริษัทใด ๆ นำข้อมูลออนไลน์ของประชาชนไปใช้ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กราว 1.9 พันล้านคนทั่วโลกได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายนี้ไปด้วย เฟซบุ๊กจึงเตรียมเปลี่ยนนโยบายผู้ใช้งาน เพื่อลดจำนวนผู้ที่จะได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายดังกล่าว
โดยปัจจุบันผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จะได้รับการคุ้มครองจากข้อตกลงผู้ใช้งานตามที่ตกลงไว้กับสำนักงานใหญ่นานาชาติของบริษัทในประเทศไอร์แลนด์ แต่ในเดือนพฤษภาคมนี้ เฟซบุ๊กวางแผนที่จะจำกัดข้อตกลงผู้ใช้ดังกล่าวให้มีผลเฉพาะกับผู้ใช้ในยุโรปเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ 1.5 พันล้านคนในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และลาตินอเมริกา จะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป หรือ GDPR ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
ด้านเฟซบุ๊กได้ยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 เม.ย.) ว่า บริษัทได้เตรียมการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากสหภาพยุโรปบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถปรับบริษัทที่เก็บข้อมูลผู้ใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ได้