อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งตรวจสอบวินัย นายถาวร เสนเนียม เปิดบ้านให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ ด้าน นิพิฏฐ์ ชี้สุ่มเสี่ยงผิดกม.พรรคการเมือง
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ เปิดบ้านที่จังหวัดสงขลาให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย รับสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทยเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ว่า เบื้องต้นให้นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าภาคใต้ สอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เป็นการกระทำที่ขัดต่อข้อบังคับพรรคในฐานะสมาชิกพรรคหรือไม่ หากพบว่าทำผิดวินัยก็ต้องพิจารณา แต่ทั้งนี้ต้องเปิดโอกาสให้นายถาวร ได้ชี้แจงด้วย โดยยืนยันว่าการสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่นายถาวร สนับสนุนนพ.วรงค์ ในการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค แต่เป็นเรื่องพฤติกรรมของสมาชิกพรรคว่าไปสนับสนุนพรรคการเมืองอื่นหรือไม่
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ กล่าวว่า การกระทำของนายถาวร ทำให้สมาชิก ปชป. สับสน และสอบถามเข้ามามาก โดยเห็นว่าไม่เหมาะสม ที่ให้พรรคการเมืองอื่นมารับสมัครสมาชิกพรรค ในขณะที่ตัวเองอยู่พรรคปชป. ทำให้เกิดคำถามว่า เมื่อบ้านนายถาวร ทำได้ แล้วคนอื่นจะทำด้วยได้หรือไม่
ทั้งนี้ตามข้อบังคับพรรค หากสมาชิก 20 คนขึ้นไป เห็นว่าควรมีการสอบสวน ก็ยื่นเรื่องให้หัวหน้าพรรค เพื่อพิจารณาต่อไปได้ เพราะสมาชิกต้องสนับสนุนในกิจกรรมของพรรค อีกทั้งการกระทำนี้ ต้องพิจารณาด้วยว่าจะสุ่มเสี่ยงต่อความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง หรือไม่ เพราะอาจถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงานว่า เราไปฮั้วหรือ สมยอมทางการเมือง หรือมีการแลกผลประโยชน์ทางการเมืองร่วมกัน จึงต้องมีการสอบสวนให้จบ
นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า มีคนส่งคลิปการปราศรัยของนายสุเทพ ที่บ้านนายถาวร ว่า "พรรคประชาธิปัตย์จะแพ้ในพื้นที่สงขลา เขต 7 และในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" และอีกตอนหนึ่งพูดว่า "เรียนท่านถาวร เสนเนียม เลขาธิการพรรค ถ้าไม่ถูกเขาฉ้อ (โกง) ก็ได้เป็นแล้ว" ซึ่งพูดเป็นภาษาใต้ ถือเป็นคำพูดพาดพิงต่อพรรคปชป. แรงมาก ที่สำคัญคลิปนี้ ถูกเผยแพร่ไปในสื่อสังคมออนไลน์ไปทั่ว การพูดเช่นนี้ พรรคเราเสียหาย ซึ่งหากกรรมการสอบสวนสรุปว่าการกระทำนั้นไม่ถูกต้อง หรือเกินเลยกติกาของพรรค ก็ต้องมีการลงโทษ ซึ่งมีทั้งการตักเตือน การลบออกจากการเป็นสมาชิกพรรค หรือการให้บุคคลนั้นขาดจากความเป็นสมาชิกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทั้งนี้ จะต่อว่านายสุเทพไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเรา แต่คนของเรา เปิดประตูให้เขาเข้ามา แต่ทั้งสองคนย่อมรู้ความเหมาะสม ว่าสิ่งใดที่ควรทำหรือไม่ควรทำ อย่างไรก็ตาม ขอให้รอผลการสอบสวนของพรรคออกมาก่อน เพราะขณะนี้มีสมาชิกพรรคกว่า 20 คน มาร้องเรียนแล้ว
ด้านนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา และแกนนำ กปปส. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนกับนายสุเทพ เป็นเพื่อนกันมา กว่า 20 ปี ร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณ และรัฐบาลทรราช กว่า 240 วันมีคนตาย 24 คน บาดเจ็บ 800 คน ติดคุก 18 คน และยังถูกฟ้องคดีอื่นๆ อีกร่วม 200 คน ถือเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของมวลมหาประชาชน ที่ยังคงอยู่ แม้ว่าตนจะไม่ได้ไปร่วม พรรครปช. ยังอยู่กับพรรคปชป. แต่อุดมการณ์เดิม และความเป็นเพื่อนยังมีอยู่ เมื่อเพื่อนรักเดินทางมารณรงค์หาสมาชิกพรรค รปช. ตนจึงเชิญนายสุเทพ มาใช้บ้านของตนเป็นสถานที่พบปะสมาชิก มวลมหาประชาชนในสงขลา ในฐานะคนรักกัน เพราะถือว่า ความเป็นเพื่อนยิ่งใหญ่มาก และจะทำให้คนประชาธิปัตย์มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น จึงขอทำความเข้าใจกับหลายคนที่กังวล อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ตนยังอยู่กับ พรรคปชป.ต่อไป
ส่วนการเปิดบ้านให้นายสุเทพ รับสมัครสมาชิก รปช. จะเป็นการแย่งฐานสมาชิกพรรคปชป. หรือไม่นั้น นายถาวร กล่าวว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองขณะนี้ เปรียบเหมือนสินค้า ใครมีสินค้าดี นำมาวางขาย ก็เป็นสิทธิของคนซื้อที่จะเลือกซื้อ คือประชาชน ขณะนี้ใน จ.สงขลา มีพรรคการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งประมาณ 10 พรรค ดังนั้น หากประชาชนเห็นว่านักการเมืองคนไหน พรรคไหนดี ก็เหมือนเห็นสินค้าดี มีสิทธิเลือกซื้อได้
นายถาวร ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ว่า "ถ้าการกระทำของผมเป็นความผิด ผมยินยอมให้ลงโทษ โดยไม่มีข้อแม้หรือข้อร้องขอใดๆ เหตุผลที่ผมได้เปิดบ้านบริการท่านสุเทพ กับคณะ ปรากฏตามคำสำภาษณ์ของผมดังต่อไปนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง และผมยืนยันว่า ผมยังเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลาในนามพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เปลี่ยนใจแน่นอนครับ”