เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 กลุ่ม Saycular ซึ่งเป็นกลุ่มกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนา ‘ให้พรรคใหม่ทำนาย...กัน : บทบาทพรรคใหม่ต่ออนาคตการเมืองไทย’ ที่ห้อง SC1002 อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ (ตึกSC) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วิทยากรประกอบด้วย นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่, นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเกรียน, นายราเชน ตระกูลเวียง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคทางเลือกใหม่, น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัญชน ดำเนินรายการโดย นายปิยพงษ์ นิ่มกุลรัตน์
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเกรียน กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมพรรคการเมืองจึงพูดนโยบายที่จะเสนอต่อสาธารณะในการพัฒนาประเทศไม่ได้ ไม่เข้าใจตรรกะ ในเมื่อพรรคการเมืองต้องทำหน้าที่เสนอนโยบายสาธารณะให้ประชาชน ดังนั้น พรรคเกรียนขอเสนอนโยบายอย่างไม่กลัว คือ ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนตัวนึกถึงคำพูดของเรืออากาศตรีฉลาด วรฉัตร ที่บอกว่า คนอยู่ในบ้านต้องล้างบ้าน เราจะอยู่ใต้มรดกเผด็จการไม่ได้
พอ คสช.ไปแล้วนอกจากทำบุญประเทศให้เรียบร้อยแล้วต้องล้างบ้านให้เป็นศิริมงคลแก่ประเทศ แต่ถ้าคสช.ยังอยู่ในบ้านก็ขอเชิญออกไป ควรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เชื่อว่าหากเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยคนเหล่านี้จะอยู่ไม่ได้เพราะไม่สามารถรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์
สำหรับกรณีหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมบัติ กล่าวว่า ทำได้โดยพรรคเกรียนจะเป็นฝ่ายค้าน ทำงานร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ โดยสร้างความบันเทิงให้การเมืองไทย ขอประกาศว่าบันเทิงแน่นอน
นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งขอไม่เสนอให้เลือกคนดี แต่ขอให้เลือกคนที่ตอบสนองการลดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น นอกจากนั้น พรรคอนาคตใหม่ มีจุดยืนไม่ทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะปัจจุบันหรือในอนาคต เพราะเป็นผู้ทำรัฐประหารซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามประชาธิปไตย
สำหรับจุดยืนที่สำคัญของพรรคอนาคตใหม่ คือการธำรงรักษาประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน ฉะนั้น การทำงานกับอดีตผู้นำรัฐประหาร ไม่ใช่จ���ดยืนของพรรคที่จะธำรงสร้างประชาธิปไตย
นายราเชน ตระกูลเวียง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคทางเลือกใหม่ กล่าวว่า ถ้าต้องร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็หมายความว่าท่านต้องเข้ามาอย่างสง่างาม ตามครรลองครองธรรม ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ใช้วิธีเอา สว. 250 คนมาโหวต แต่หากมาด้วยวิธีที่พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ ยังถือว่าอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญแบบนี้รับได้
“ถ้าเข้ามาแบบนายกฯ คนนอก (สว.โหวต) ผมจะเป็นฝ่ายค้านแน่นอน ผมรับไม่ได้ สามารถทำนายอนาคตได้เลยว่าบ้านเมืองจะเลวร้ายกว่าเดิม กลับเข้าสู่วังวนเดิมอีก ดังนั้นไม่ใช่ทางเลือกใหม่”
น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัญชน กล่าวว่า จุดยืนของพรรคสามัญชนคือไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก ไม่ว่ากรณีใดๆ และแน่นอนต้องการผู้นำที่มีอุดมการณ์สอดคล้องกับพรรค ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มีคุณสมบัติที่สอบผ่านของพรรคสามัญชน
จุดยืนคือไม่ได้ต้องการเพียงแค่ไปสู่สภา แต่ต้องการสร้างการเมืองใหม่ ต้องการสร้างพื้นฐานของประชาธิปไตยจากฐานราก
ไม่เอานายกฯ คนนอกโดยเด็ดขาด และถ้าหากต้องทำงานกับกลุ่มคนเดิมซึ่งเกี่ยวข้องกับคณะรัฐประหารหรือทำลายขบวนการประชาธิปไตย เราก็จะใช้ขบวนการรัฐสภาโดยเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง