Go Global ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2556
นโยบาย "เหลียวตะวันออก" หรือ Look East ของอินเดีย ได้รับการตอกย้ำถึงความสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อนายมันโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ ประเทศบรูไน และการเยือนบรูไนและอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการเป้นเวลา 4 วัน จุดเด่นที่สำคัญอยู่ที่การกระชับความสัมพันธ์กับอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในระหว่างการเยือนนั้น ได้มีการลงนามร่วมกันในความร่วมมือหลายฉบับ ทั้งในด้านการส่งเสริมการค้าและความร่วมมือด้านความมั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียและอินโดนีเซียมีความเป็นมาที่ยาวนาน ต่างเป็นสมาชิกของกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดด้วย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า จุดมุ่งหมายจริงของความร่วมมือนี้คือความต้องการลดอิทธิพลของจีนในภูมิภาค นี้
อินเดียเปิดใช้โรงงานผลิตพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่มีชื่อว่า โรงงานกุดานกุลัม ณ เมืองทมิฬนาดู ซึ่งเป้นโรงงานที่ได้รับความช่วยเหลือในด้านการสร้างและเทคนิคจากรัสเซีย การสร้างโรงงานผลิตพลังงานนิวเคลียร์นี้ถือว่าเป็นการช่วยสร้างแหล่งพลังงาน งานใหม่ให้อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาค ขณะเดียวกัน อินเดียเปิดเผยว่า จะมีการสัร้างโรงงานเช่นเดียวกันนี้อีก 2 แห่ง แต่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ฟูกูชิม่า กลายมาเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการให้หลักประกันด้านความปลอดภัย และเป้นจุดที่ได้รับการต่อต้านมากที่สุดจากสาธารณชนอินเดีย
สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์แห่งบรูไน ทรงประกาศบทลงโทษตามหลักกฎหมายอิสลามที่มีความเข้มงวดมากขึ้นและได้มีการลง ในพระราชกิจจานุเบกษาแล้ว เช่น การลงโทษประหารชีวิตผู้คบชู้ด้วยการขว้างจนตาย การตัดมือผู้ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ หรือการเฆี่ยนผู้ที่ดื่มสุรา ความเคลืาอนไหวนี้ได้รับการวิจารณ์จากกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนอย่างมาก แต่ในมุมมองของบรูไนนั้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความชอบธรรมให้กับผู้นำ โดยมีการผนวกเอาความเชื่อทางศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัดเข้ากับการครอบงำ สังคมทางด้านจริยธรรม แต่การประกาศกฎที่เข้มงวดเช่นนี้อาจส่งผลในทางลบต่อกษัตริย์บรูไนเองในช่วง ที่ภูมิภาคมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น