ไม่พบผลการค้นหา
หมดยุคล่าเมืองขึ้น ถึงยุคพัฒนาคุณภาพชีวิต
เชื่อหรือไม่ AI จะทำลายอารยธรรมมนุษยชาติ
ทำเงินหายแล้วได้คืน ควรให้รางวัลเท่าไร?
ไทยครองอันดับ 3 รายได้จากการท่องเที่ยว
เราสามคนกับการแต่งงาน
คดีผู้หญิงยิง ฮ. ความยุติธรรมที่มาช้าดีกว่าไม่มา
In Her View - สื่อต้องเลิกงมงายเรื่องปอบ - Short Clip
ระวังอย่าโพสต์รูปลั้ลลา บนเฟซบุ๊ก (?)
FULL EP. สังคมสูงวัย โจทย์ท้าทายของรัฐบาล
ความนิยมการกินอาหารคลีน ในสังคมไทย
คลีนหรือคลั่ง
เสรีภาพสื่อกัมพูชาน่าเป็นห่วง
กรุงเทพฯ แชมป์รถติด
5 เมืองคุณภาพชีวิตแย่ที่สุดในโลก
ไม่มีตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งฝรั่งเศส
ร้านอาหารฟุบ เพราะออนไลน์เฟื่อง
ปล่อยกุ้งปลาลงแม่น้ำได้บาปมากกว่าบุญ
ยิ่งเปิดยิ่งโปร่งใส โอเพ่นดาต้า
คุมสื่อออนไลน์ - สแกนนิ้วซื้อซิม เพื่อความมั่นคง
ไทยติดหนึ่งในห้าประเทศคอร์รัปชัน
โรคซึมเศร้ากับอุตสาหกรรมยา
Jul 27, 2017 14:32

กรมสุขภาพจิต ระบุว่าการสำรวจกลุ่มคนอายุ 15 ปีขึ้นไปในประเทศไทยพบว่าทุก 1 ใน 4 คน จะมีโอกาสมีปัญหาทางสุขภาพจิต และในปัจจุบัน 'โรคซึมเศร้า' ถือว่าเป็นความเจ็บป่วยทางจิตใจที่มีการพูดถึงมากที่สุดอาการหนึ่ง

ในทางการแพทย์ โรคซึมเศร้าถือเป็นภาวะผิดปกติของอารมณ์ อันเป็นผลมาจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทที่เรียกว่า ‘เซโรโทนิน’ (Serotonin) ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมอารมณ์ ความโกรธ ความก้าวร้าว ความหิว ความวิตกกังวล นอกจากนั้น การลดลงของสารสื่อประสาทชนิดนี้ยังมีผลต่อการเกิดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย เนื่องจากภาวะซึมเศร้าถือเป็นความป่วยไข้ทางจิตใจ (mental illness) การตรวจสอบและวินิจฉัยจึงไม่น่าจะง่ายเท่ากับผู้ป่วยด้วยโรคทางร่ายกายอื่น ๆ


การรักษาโรคซึมเศร้าอาจแบ่งได้หลักๆ 3 ทาง คือ 
1. การพบนักจิตวิทยาเพื่อบำบัดผ่านการพูดคุย. 
2. การรักษาด้วยยา ยาที่เป็นที่นิยมสำหรับการรักษาโรคซึมเศร้า
3. รักษาด้วยยาและการพบนักจิตวิทยาเพื่อทำการบำบัดร่วมกัน
หนึ่งในข้อถกเถียงที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ต่อประสิทธิภาพของยาต้านเศร้าก็คือ ยาเหล่านี้มีผลทางการแพทย์เพื่อรักษาอาการซึมเศร้าจริง หรือเป็นเพียงยาที่มีผลในเชิงจิตวิทยาไม่ต่างจากยาหลอก 

Source :  

http://www.tcijthai.com/news/2017/2/scoop/6761 
 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog