รายการ WakeUp News ประจำวันที่ 21 มีนาคม 2560
กรณีที่สังคมยังสงสัยและตั้งคำถามในวงกว้างอย่างมาก ประเด็นการวิสามัญนายชัยภูมิ ป่าแส หรือเด็กลาหู่ ที่เป็นนักกิจกรรม เป็นตัวแทนเครือข่ายเยาวชนต้นกล้า จ. เชียงราย ถูกทหารร้อย ม.2 บก. ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 ประจำจุดตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วิสามัญฆาตกรรม
โดยอ้างว่า มีการหลบหนีการจับกุมและเตรียมขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่นั้น เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เนื่องจากนายชัยภูมิมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกทำให้เชื่อได้ว่าเกี่ยวพันกับยาเสพติด แถมเป็นนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์ให้คนในพื้นที่ห่างไกลจากยาเสพติดมาตลอด แต่กลับถูกวิสามัญจากประเด็นนี้
หากรัฐต้องการจะสร้างความเป็นธรรม หรือคืนความยุติธรรมให้กับชาวลาหู่นี้จริง ต้องหาคนกลางเข้ามาตรวจสอบอย่างโปร่งใส ชัดเจน เร่งด่วน เพราะเป็นเหตุสะเทือนใจ อีกทั้งในอดีตก็เคยมีการวิสามัญฆาตกรรมผิดพลาดแล้วยัดข้อหาประชาชนมาแล้ว ถ้ากองทัพเป็นของประชาชนจริงก็ต้องคืนความเป็นธรรมโดยให้คนกลางเข้าตรวจสอบ
แม้ว่าจะมีเหตุให้เชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวเสี่ยงต่อการเป็นพื้นที่ยาเสพติดจริง หรือต่อให้ชาวลาหู่มียาเสพติดในครอบครองจริง เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีสิทธิจะยิงประชาชน หรือแม้แต่การขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่นั้น รัฐก็ต้องพิสูจน์หาหลักฐานมาให้ได้ ไม่รีบปิดคดี แต่ต้องรีบยืนหยัดในหลักความยุติธรรมก่อน
ขณะที่เรื่อง บิ๊กป้อม-โกตี๋ ทั้งกรณีที่พลเอกประวิตรครอบครองเช็ค 1 ล้านบาทช่วงปี 2551 และการพบคลังแสงอาวุธของโกตี๋ตามที่เจ้าหน้าที่รัฐแถลงนั้นยังเป็นประเด็นไม่เลิก ล่าสุดเรืองไกรเดินหน้าร้องสรรพากรให้ตรวจสอบปมเช็ค 1 ล้าน ขณะที่โกตี๋เอง พลเอกประวิตรยืนยันจะประสานเรื่องนำตัวกลับไทยเพื่อดำเนินคดีให้ได้
ส่วนเรื่องปรองดองเป็นเรื่องของใครนั้น พลเอกประวิตรยืนยัน ปรองดองเป็นเรื่องของประชาชน ยังประโยชน์ให้แก่ประชาชน แม้เราจะเห็นว่ามีตัวแทนที่มีเพียงจำนวนหยิบมือหรือ 2 หมื่นกว่าคนนั้น เทียบไม่ได้เลยจากจำนวนประชากร 60 ล้านคน ทำให้ประเด็นปรองดองถูกตั้งคำถามว่า เป็นปรองดองทางเดียว เข้าไปนั่งฟังประเด็นปัญหาและจดบันทึกตาม มากกว่าจะเป็นตัวแทนจากทุกภาคส่วนตามที่รัฐกล่าวอ้าง
ปิดท้ายด้วยเรื่อง 'อภินิหารทางกฎหมาย' วานนี้ หลายคนเข้าใจผิดว่าราชกิจจานุเบกษาที่ประกาศออกมา เป็นการห้ามขยายอายุความภาษีหุ้นชิน เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้..แต่เมื่ออ่านเนื้อหา และสำรวจข้อมูลดีๆ จะพบว่า ไม่ใช่ ราชกิจจานุเบกษาเป็นการยืนยันตามหลักการที่รองปลัดกระทรวงการคลังเคยกล่าวอ้างว่าทำไม่ได้ ตั้งแต่ 7 มีนาคมที่ผ่านมานี้เอง แต่เพิ่งมาประกาศทางราชกิจจานุเบกษา ส่วนอภินิหารทางกฎหมายที่เสกเหล่าเกจิเนติบริกรทั้งหลายขึ้นมานั้น ยังอยู่ และอยู่เพื่อปลดล็อคราชกิจจาฯ ฉบับนี้นี่เอง