ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีในซิลิคอนแวลีย์ตกลงร่วมกันที่จะไม่ทำระบบลงทะเบียนและติดตามชาวอเมริกันสัญชาติมุสลิม เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะทำระบบลงทะเบียนและติดตามชาวอเมริกันสัญชาติมุสลิม ตามนโยบายที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาไว้ในช่วงที่เขาหาเสียงเลือกตั้ง โดยบริษัทเทคโนโลยีที่ปฏิเสธการสร้างฐานข้อมูลของชาวอเมริกันมุสลิมให้กับทรัมป์แล้วได้แก่แอปเปิล, กูเกิล, เฟซบุ๊ก, ไอบีเอ็ม, อูเบอร์, ทวิตเตอร์, และไมโครซอฟท์
เว็บไซต์ BuzzFeed รายงานว่า นโยบายหลายอย่างที่ทรัมป์นำเสนอในช่วงที่เขาหาเสียงไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในนโยบายที่เขาจะทำในช่วง 100 วันแรกที่เขาเข้าดำรงตำแหน่ง แต่จากคำให้สัมภาษณ์ของทีมงานที่ดูแลเรื่องการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของทรัมป์ระบุว่า การขึ้นทะเบียนชาวมุสลิมในสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในนโยบายที่ทรัมป์จะทำอย่างแน่นอน
นโยบายเรื่องสิทธิส่วนบุคคลด้านข้อมูลถือเป็นสิ่งที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ถึงแม้แต่ผู้ใช้งานจะเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีก่อการร้ายก็ตาม เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้มองว่า หากรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ ทราบวิธีการปลดล็อก หรือล้วงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานคนใดคนหนึ่ง พวกเขาอาจจะใช้วิธีนี้ในการล้วงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนคนอื่นๆ ได้อีก