ในช่วงรายงานพิเศษจากสำนักข่าวเอพี จะพาคุณผู้ชมไปที่ประเทศจีน ซึ่งขณะนี้หญิงชาวจีนกำลังพยายามหาวิธีผสมเทียมลูกคนที่สอง หลังจีนประกาศยุตินโยบายคนเดียวที่กำลังจะมีผลในต้นปี 2016 นี้ เนื่องจากหญิงชาวจีนส่วนใหญ่ที่ต้องเผชิญกับนโยบายลูกคนเดียวมานาน จนทำให้อายุมากขึ้น และมีลูกโดยธรรมชาติยาก
ขณะนี้มีรายงานจากทั้งคลีนิก และโรงพยาบาลในจีนหลายแห่งเกี่ยวกับจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นของหญิงชาวจีนที่ต้องการการผสมเทียมลูกคนที่สอง เนื่องจากจีนมีนโยบายยกเลิกการมีลูกคนเดียว ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2016 นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ จีนเริ่มใช้นโยบายลูกคนเดียวตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1970 โดยกำหนดให้พ่อแม่ในเขตเมืองมีลูกได้เพียงคนเดียว ยกเว้นครอบครัวในเขตชนบทสามารถมีลูกคนที่สองได้หากลูกคนแรกเป็นผู้หญิง รวมถึงชนกลุ่มน้อยสามารถมีลูกได้มากกว่าหนึ่งคนสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจะต้องถูกลงโทษปรับเงินตามระดับรายได้สุทธิ บางครอบครัวที่เป็นชาวชนบทอาจถูกยึดข้าวสารอาหารแห้งและผลผลิตทางการเกษตรแทนเงินค่าปรับ หรือบางครอบครัวที่พ่อแม่ทำงานในภาครัฐ ก็อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ปัญหาที่เกิดขึ้นของหญิงชาวจีน นั่นคือ การมีลูกคนแรกแล้วไม่ประสบความสำเร็จ บางครอบครัวไม่สามารถมีลูกได้ หรือบางครอบครัวลูกคนแรกก็ป่วยด้วยโรคร้าย หรือ บางคนเสียชีวิต ทำให้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนในครอบครัว รวมถึงยังไม่สามารถมีลูกคนที่สองได้อีก และถึงแม้จีนจะประกาศยกเลิกการมีลูกคนเดียวแล้ว แต่หญิงชาวจีนที่เผชิญกับกฏนี้มานาน ทำให้มีอายุมากขึ้น ซึ่งถึงอยากจะมีลูกก็ไม่สามารถมีโดยธรรมชาติได้ เพราะคนส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 40-50 ปี ดังนั้นเทคโนโลยีการผสมเทียมจึงกำลังเป็นที่ต้องการมากในจีน
ซึ่งเทคโนโลยีการผสมเทียมในจีนที่พัฒนาขึ้นมานี้ ก็สามารถช่วยให้หญิงชาวจีนอายุ 40-50 ปี มีลูกคนที่สองได้ โดยหนึ่งในคนไข้หญิงที่ประสบความสำเร็จอย่าง ฉี เจินฮัว ซึ่งมีอายุ 44 ปี และขณะนี้ตั้งครรภ์แล้ว 47 วัน ได้บอกว่าก่อนหน้านี้เธอมีบุตรสาวที่ป่วยเป็นลูคีเมีย ซึ่งสร้างความเสียใจและกดดันให้เธอมาก ดังนั้นการมีลูกคนที่สองสำเร็จได้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
ซึ่งขณะนี้อัตราการเกิดของเด็กทารกจากการผสมเทียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 แต่ค่าใช้จ่ายยังค่อนข้างแพง อยู่ที่40.000-45.000 หยวน หรือประมาณ 207,000 - 230,000 บาท และทางคณะกรรมการสุขภาพของจีนก็คาดว่าในเดือนพฤศจิกายนจะมีผู้หญิงประมาณ 90 ที่จะมีสิทธิ์ได้ลูกคนที่สอง