จากกรณีที่ประเทศอินโดนีเซียอาจจะมีการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มรสหวานเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลอินโดนีเซียได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการศึกษาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ที่ได้รับความนิยมรองจากน้ำเปล่า และชา เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพหรือไม่นั้น
นายอภิชาติ สุขจิรวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กระแสข่าวดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าใดๆออกมา แต่บริษัทยังติดตามข้อมูลต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกกังวลหากอินโดนีเซียจะมีการจัดเก็บภาษีในส่วนนี้เพิ่มขึ้นจริง เพราะบริษัทอาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มราคาสินค้าตามต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะกระทบต่อผู้ผลิตทุกราย และบริษัทยังจะเดินหน้าลงทุนสร้างโรงงานในประเทศอินโดนีเซียตามแผนเดิม โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะตัดสินใจเริ่มก่อสร้างก็ต่อเมื่อมียอดขายในอินโดนีเซียถึง 1,000 ล้านบาทแล้ว
สำหรับ ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เดือนละ 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก โดยวางจำหน่ายไปทั้งสิ้น 2 รสชาติ ซึ่งหลังจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังร้านค้าย่อยในอินโดนีเซียด้วย
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป ได้ปรับกำไรสุทธิปี 2558 - 2559 ลงจากเดิม 15% และ 11.4% ตามลำดับ มาที่ 894.7 ล้านบาท และ 1,110.2 ล้านบาท เนื่องจากการปรับยอดขายลง จากคาดการณ์การจับจ่ายใช้สอยในประเทศจะกลับมาฟื้นตัวชัดเจนช่วงกลางปีหน้า โดยคาดว่าผลการดำเนินงานปลายปี 2558 ยังไม่เห็นการฟื้นตัว ส่วนปีหน้าคาดว่าไตรมาส 2 จะมียอดขายจะโตขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน รวมถึงยอดขายส่งออกไปอินโดนีเซียที่จะเริ่มรับรู้ปีหน้า