ลาเต้ฟักทองสไปซี่ของสตาร์บัคส์ที่ชาวอเมริกันนิยมดื่มนั้น มีผลวิจัยเชิงสุขภาพรายงานถึงข้อดี-ข้อเสียของเครื่องดื่มชนิดนี้ออกมา แต่ดูเหมือนว่าจะมีแต่ข้อเสียเป็นส่วนใหญ่
เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ชาวอเมริกันต่างเฝ้ารอเครื่องดื่มยอดฮิตของสตาร์บัคส์อย่างลาเต้ฟักทองสไปซี่ หรือ PSL ซึ่งเพิ่งวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการหลังวันแรงงานของสหรัฐอเมริกา
ลาเต้ฟักทองสไปซี่ บรรจุในแก้วขนาด 16 ออนซ์ ผสมนม 2% ให้พลังงาน 380 แคลลอรี่ ไขมัน 14 กรัม และน้ำตาล 50 กรัม
มีผลวิจัยยืนยันว่า สาเหตุที่ทำให้คนติดลาเต้ชนิดนี้ เกิดจากน้ำตาล 12 ช้อนชาในลาเต้ 1 แก้ว จะทำให้ร่างกายตอบสนองสารให้ความหวาน เช่นเดียวกับเฮโรอีนหรือโคเคนเลยทีเดียว
ซอนย่า แองเจโลน โฆษกหญิงแห่งสถาบันสารอาหารและอาหาร เปิดเผยกับ Yahoo Health ว่า หลังดื่มลาเต้เข้าไป 20 นาที จะทำให้ตับอ่อนทำงานหนัก เร่งให้อินซูลินเก็บน้ำตาลไว้ในรูปของกลูโคส ก่อนสะสมกลายเป็นไขมันในที่สุด
ลาเต้ฟักทองสไปซี่ ยังมีผลต่อตับ เพราะปริมาณน้ำตาล 50 กรัมนั้นมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โดยหลังจากดื่มสักครี่งชั่วโมง ตับจะทำหน้าที่ดูดซึมกลูโคสก่อนแปลงเป็นไกลโคเจน ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในที่สุด นอกจากนี้ ยังมีผลต่อความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้น และชีพจรเต้นเร็วขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อดีในการดื่มก็มีอยู่ เช่น ให้โปรตีน 14 กรัมในการสร้างกล้ามเนื้อต่อการดื่ม 1 แก้ว และทำให้อิ่มนานอีกด้วย
Source :
https://www.yahoo.com/health/your-body-immediately-after-drinking-a-pumpkin-110501584.html