สิงห์ เอสเตท เตรียมลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท ในการลงทุนและซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ และคาดมีรายได้ 2 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี พร้อมเปิดตัวโครงการสิงห์คอมเพล็กซ์ ย่านอโศก แล้วเสร็จในปี 2560
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มภิรมย์ภักดี เปิดเผยว่า ได้เตรียมงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ในการเข้าซื้อกิจการ ควบรวมกิจการ และร่วมทุนกับพับธมิตร เพื่อผลักดันรายได้เป็น 2 หมื่นล้านบาทภายในปี 2562 จากรายได้จากค่าเช่า 50% และ รายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ 50% โดยสิงห์เอสเตท จะกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่มบุญรอด 20-30%
สำหรับในช่วง 5 ปีนี้ มีแผนจะซื้อกิจการไม่ต่ำกว่า 2-3 ดีลต่อปี โดยแหล่งเงินทุนมาจากการกู้สถาบันการเงิน การพิ่มทุน และการขายสินทรัพย์ที่เป็นโรงแรมเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริม ทรัพย์ หรือ รีด (REIT) มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท
และขณะนี้ได้ซื้อกิจการโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวของไทย 1 แห่ง มูลค่า 3 พันล้านบาท ภายในปีนี้ หลังจากที่ได้บรรลุข้อตกลงร่วมทุนกับบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์เพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร โดยใช้วงเงินลงทุน 3 พันล้านบาท รวมทั้งจะมีการรร่วมลงทุนกับพันธมิตรต่างประเทศในธุรกิจโรงแรมและอาคารสำนักงานในเมียนมาร์ด้วย รวมทั้งอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการโรงแรมทั้งในและต่างประเทศอีก 3-4 ดีล มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท โดย 5 ปี ตั้งเป้าซื้อกิจการโรงแรม 10-11 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 7-8 แห่ง และต่างประเทศ 2-3 แห่ง
นอกจากนี้ มีความสนใจเข้าซื้อที่ดินนิคมอุตสาหกรรมในประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ครบวงจร และใช้เป็นคลังสินค้าของกลุ่มบุญรอดบริเวอร์รี่ รวมทั้งมีแผนซื้อที่ดินของกลุ่มบุญรอด เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ และสนามกอล์ฟที่สมุยของนายสันติ ภิรมย์ภักดี ประธานกลุ่มบุญรอด มาบริหาร
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2558 คาดว่าจะกลับมามีกำไร และมีรายได้ 2 พันล้านบาท หลังปีนี้จะมีผลขาดทุน 100 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเข้าซื้อกิจการ
บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งจะเปิดตัวโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ อาคารสำนักงาน ศูนย์การจัดประชุมและจัดแสดงคอนเสิร์ต รวมทั้งโรงแรมและพื้นที่ค้าปลีกบนถนนอโศก-เพชรบุรี ขนาด 11 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม ปี 2560 และโครงการคอนโดมิเนียม พื้นที่ 2 ไร่ย่านอโศก และบ้านจัดสรรระดับพรีเมียม เลียบทางด่วนรามอินทรา บนพื้นที่ 30 ไร่