การเลือกตั้งครั้งนี้ เกือบทุกพรรคการเมืองต่างก็ใช้นโยบายประชานิยม เพื่อหวังที่จะได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกันก็ไม่เห็นว่าจะมีพรรคใดที่จะชูนโยบายการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น มีเพียงแต่ “พรรครักประเทศไทย” เท่านั้นที่ชูนโยบายนี้ขึ้นมา และเสนอตัวเข้ามาเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล จึงเกือบจะไม่มีผลในการวางมาตรการเพื่อแก้ปัญหานี้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ภาคประชาชนและนักธุรกิจกลับให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยมีการจัดตั้งภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่หยุดยั้งการทุจริตให้ได้ วันนี้ (28 มิถุนายน 2554) รายการ Hot Topic ร่วมพูดคุยกับอ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และนายณรงค์ โชควัฒนา นักธุรกิจอิสระ วิเคราะห์ในนโยบายต่อต้านคอร์รัปชั่น
อ.ธนวรรธน์ กล่าวว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นถือเป็นปัญหาพื้นฐานที่บั่นทอนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างมาก และเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไข ขณะเดียวกันการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ประเทศอีกด้วย
ทางด้านนายณรงค์ กล่าวว่า การทุจริตคอร์รัปชั่น นักการเมือง หรือรัฐบาล มักจะไม่ได้มองถึงปัญหาในเรื่องนี้ แต่กลับสร้างปัญหานี้ขึ้นมาเอง โดยสาเหตุที่สำคัญคือ ผลประโยชน์ และอำนาจ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า กระแสสังคม และประชาชนจะร่วมกันสร้างทัศนคติและภาพลักษณ์ในการต่อต้านการคอร์รัปชั่น