ท่ามกลางวิกฤตอีโบลาที่ทำให้ทั่วโลกหวาดวิตกมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดผู้ติดเชื้อชาวอเมริกันรายหนึ่งยังคงได้รับข่าวดีบ้าง หลังจากที่แพทย์ตรวจไม่พบเชื้อในร่างกายของเธอแล้ว
สื่อมวลชนสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นางสาวแอมเบอร์ วินสัน พยาบาลชาวอเมริกันวัย 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยอีโบลารายที่ 2 ที่ติดเชื้อจากคนไข้ชาวไลบีเรีย ไม่มีเชื้ออีโบลาอยู่ในร่างกายแล้ว โดยยึดจากคำแถลงของครอบครัวนางสาววินสันเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ นางสาววินสันเป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน ในเมืองดัลลัส มลรัฐเทกซัสของสหรัฐฯ ที่รับหน้าที่ดูแลนายโธมัส เอริก ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลาชาวไลบีเรีย และได้รับเชื้อในเวลาต่อมา พร้อมกับนางสาวนีนา แฟม เพื่อนร่วมงานวัย 26 ปี
ขณะนี้ นางสาววินสันยังคงรักษาตัวอยู่ที่หน่วยโรคติดต่อของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเอเมอรี ในนครแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้ป่วยอีโบลา และเคยรักษามิชชันนารี 2 คนที่ติดเชื้อในไลบีเรียจนหายดี ขณะที่ นางสาวแฟมมีอาการดีขึ้นจนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และกำลังรักษาตัวอยู่ที่สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ ในเมืองเบเทสดา มลรัฐแมรีแลนด์
ส่วนประเทศที่มีการระบาดของเชื้อเป็นประเทศแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วอย่างกินี ก็ออกมาประกาศว่า ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เสียชีวิตจากอีโบลาทุกรายจะได้รับเงินชดเชยครอบครัวละ 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 320,000 บาท โดยขณะนี้มีครอบครัวที่จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าวอย่างแน่นอนแล้ว 42 ครอบครัว
จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาแล้ว 4,877 ราย จากผู้ติดเชื้อ 9,936 คน จากตัวเลขล่าสุดขององค์การอนามัยโลก โดยประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดยังคงเป็นไลบีเรียที่ 2,705 ราย จากผู้ติดเชื้อ 4,665 คน ทั้งนี้ จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรวมอยู่ด้วยถึง 244 ราย