ไม่พบผลการค้นหา
Tech Feed: ไฮไลท์คำค้น "World Cup" จากทั่วโลก
Tech Feed : 'Skootar' แอปเรียกแมสเซ็นเจอร์อัจฉริยะฝีมือคนไทย
Tech Feed: YouTube เปิดตัวเว็บ-แอปสำหรับนักเล่นเกม
Tech Feed: Jabra Sport Pulse หูฟังสปอร์ตอัจฉริยะ
Tech Feed : Google Duo แอพใหม่แซงหน้า Pokemon Go
Tech Feed: Samsung ตั้งแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์จอภาพให้ Apple
Tech Feed iPhone 6 รุ่น 5.5 นิ้วอาจเลื่อนเปิดตัวไปปลายปี
World Trend - Facebook โฉมใหม่ เน้นความเป็นส่วนตัว - Short Clip
Tech Feed : 5 สมาร์ตโฟนสุดยอดกล้องเซลฟี
Tech Feed : ควบคุมเมาส์ด้วย'สมอง'นวัตกรรมช่วยผู้ป่วยอัมพาต
World Trend - FBI, CIA, NSA เตือนคนอเมริกันอย่าใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ย - Short Clip
Tech Feed: Google เปิดตัวดีไวซ์ Nexus ใหม่ 3 ตัว
Tech Feed ท่องนครวัดกับ Google Street View
World Trend - บ.เทคฯ ลงนามต้านก่อการร้าย-ความรุนแรง - Short Clip
Tech Fix "LG G2 สมาร์ตโฟนใหม่ที่กล้าแตกต่าง"
Tech Feed: Apple เปิดตัว iPad และ Mac รุ่นใหม่ส่งท้ายปี
Tech Feed ย้อนเวลาหาอดีตกับ Google Street View 'Time Machine'
World Trend - ​Telegram มีผู้ใช้งานเพิ่ม 3 ล้านบัญชี หลัง Facebook ล่ม - Short Clip
World Trend - กล้อง 3 ค่ายดัง ตกลงใช้เลนส์รุ่นเดียวกัน - Short Clip
Tech Feed 'Foodini' เครื่องพรินท์อาหารทานได้
Apr 14, 2014 11:29

Foodini เครื่องพรินท์อาหารทานได้

การปรินท์สามมิติเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจอย่างสูงในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนมากจะนำไปใช้ในการปรินท์โมเดลหรืออะหลั่ยต่างๆ ที่ไม่ต้องการผลิตล็อตใหญ่ แต่ของที่เป็นออแกนิกอย่างอาหารก็สามารถปรินท์ได้เหมือนกัน Foodini เป็นครื่องปรินท์สามมิติที่ออกแบบมาให้ปรินท์อาหารโดยเฉพาะ ตัวเครื่องจะมีแคปซูลเปล่าที่ผู้ใช้งานสามารถใส่วัตถุดิบลงไปตามสูตรอาหาร จากนั้นขั้นตอนที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเครื่องในการปรินท์ออกมา อาหารที่ Foodini สามารถปรินท์ได้ในตอนนี้ก็อย่างเช่น พิซซ่า บราวนี่ เบอร์เกอร์ คุกกี้ และอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ผลิต Foodini บอกว่าเครื่องปรินท์แบบนี้จะทำให้คนอยากกินอาหารโฮมเมดที่บ้านมากขึ้นเพราะไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากของการปรุงอาหารด้วยตัวเอง ใครที่สนใจ ตอนนี้ Foodini เป็นโปรเจ็กต์ระดมทุนอยู่บนเว็บไซต์ Kickstarter และน่าจะพร้อมวางขายในท้องตลาดในเดือนตุลาคม 2014 นี้ 
 
ทำไม Facebook ต้องแยกแชตออกจากแอปฯ หลัก
ใครที่มักจะแชตผ่านแอปพลิเคชันหลักของ Facebook บนอุปกรณ์ระบบ iOS หรือ Android บ่อยๆ ก็คงจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วว่า Facebook ได้แยกฟีเจอร์แชตออกจากแอปหลัก และบังคับให้ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอป Messenger แยกต่างหากแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวนมากบ่นกระปอดกระแปดในการต้องใช้สองแอปพลิเคชันร่วมกัน ซึ่งสาเหตุที่เฟซบุ๊กต้องแยกแชตออกมานั้นก็เพราะอยากจะให้ความสำคัญของแอปพลิเคชัน Messenger ให้มากขึ้น ด้วยการเสริมฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปอย่างการให้โทรศัพท์หากันได้ฟรีที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ Facebook จะยังสามารถลดขนาดของแอปพลิเคชันหลักลงทำให้สามารถรันได้เร็วขึ้นด้วย 
 
ตรวจสอบรายชื่อเว็บไซต์ รอด-ไม่รอด Heartbleed bug
Heartbleed bug ช่องโหว่ทางด้านความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตทำให้เว็บไซต์ทั่วโลกต้องวิ่งวุ่นกับการรีบอัปเดตการป้องกันความปลอดภัยบนเซิฟเวอร์ของตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานรั่วไหล ซึ่ง Cnet ก็ได้ทำตารางสรุปสถานะของแต่ละเว็บไซต์หลักๆ ให้ตรวจสอบข้อมูลได้ง่ายๆ โดยเว็บไซต์ในหมวดหมู่ที่มีการแก้ไขแล้วแต่ผู้ใช้งานก็ยังควรเปลี่ยนพาสเวิร์ดอยู่ดีนั้น ก็ประกอบด้วย Google, Facebook, YouTube, Yahoo!, Wikipedia, Bing, Pinterest, Instagram, Tumblr และ Dropbox ส่วนเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับผลกระทบตั้งแต่แรกและไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพาสเวิร์ด ก็อย่างเช่น Amazon, LinkedIn, eBay, Twitter, PayPal, MSN, และ Microsoft เป็นต้น 
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog