ผู้บัญชาการทหารบกย้ำ ไม่อยากใช้ "ยาแรง" กฎอัยการศึก วอนให้คู่ขัดแย้งเสียสละ ยอมเจ็บเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการประกาศกฎอัยการศึก ว่า กฎนี้มีไว้เพื่อระงับเหตุร้าย จลาจล ส่วนตัวไม่อยากจะให้ใช้ยาแรง แต่ถ้าคนไข้ดื้อยา ยาอะไรก็เอาไม่อยู่ ต่อให้มีร้อยกฎหมายก็ทำอะไรไม่ ได้ ถ้าไม่เชื่อฟังกฎหมาย ต้องถอยกลับมาฟังกฎหมาย แล้วมาสู้กัน
ทั้งนี้คนไทยต้องมีวิสัยทัศน์ไปข้างหน้า ประเทศชาติจะเดินได้อย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร ใครจะเป็นผู้เสียสละ เพื่อให้ได้ความสงบสุขคืนมา แต่ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนเสีย ใครเป็นคนยอม ถ้าคิดว่าเสีย เปรียบหรือพ่ายแพ้ ไม่มีวันจบ แต่ถ้าคิดว่าเสียสละ ไม่ว่าจะเป็นใคร มันคือเหตุการณ์จบ แล้วค่อยไปแก้กันต่อ ดีกว่าเอามายันกันอย่างนี้ ถ้ารบกันทั้งสองฝ่าย เจ็บตายทั้งคู่ ไม่มีใครได้อะไร ไม่มีใครชนะ บ้านเมืองก็นิ่งสนิทอยู่แบบนี้
ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของ กปปส.และ นปช.ช่วงปลายเดือนมีนาคมและต้นเดือนเมษายน ว่า เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ หากไม่ทำผิดกฎหมายก็สามารถชุมนุมได้ แต่มองว่า 2 ฝ่ายทำผิดด้วยกันทั้งคู่ แกนนำจึงต้องควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในกรอบกติกา อย่าให้มีการเผชิญหน้า ปะทะ และใช้อาวุธ
และกองทัพต้องดูแลทุกฝ่าย จึงจำเป็นต้องคงจุดตรวจความมั่นคงไว้ หากมีเหตุการณ์รุนแรงมาก ก็ต้องเพิ่มจุดตรวจฯ โดยขออนุมัติจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ มีจุดตรวจและปรับตามความเหมาะสม พร้อมประสานตำรวจ ป้องกันสถานที่ราชการ ทั้งศาล และ ป.ป.ช. รวมถึงตั้งจุดตรวจค้นอาวุธสงคราม
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า อย่าคิดว่าทหารมีอำนาจนอกระบบ มีอาวุธแล้วทำได้ทุกอย่าง หากทหารทำเกินกว่าเหตุถือว่า "ผิด" อย่าเอาแต่ใจ เพราะจะติดเป็นนิสัย ต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้ แล้วคนบังคับใช้กฎหมายต้องทำให้ความชอบธรรม และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายได้มีโอกาสโต้แย้ง
หากคนไทยทุกคนยอมให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด กฎหมายจะเป็นกฎหมาย แต่วันนี้ ใช้กฎหมายเล่นงานอีกฝ่ายหนึ่ง ใช้กฎหมายมาสู้กัน ถามว่า กฎหมาย องค์กรต่างๆ ศาล ได้รับการยอมรับหรือไม่ ก็มองว่าเอียงข้าง ถ้าตัดสินเข้าข้างตัวเองก็ดี แต่ถ้าไม่ถูกใจตัวเองก็บอกเอียงข้าง แล้วใครจะตัดสินอะไรได้