จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมช่วงเย็นวานนี้ (29 ต.ค.) ที่หน้า สน.ดินแดง ซึ่งมีกลุ่มประชาชนรวมตัวกันทำกิจกรรมจุดเทียนไว้อาลัยให้กับ “วาฤทธิ์” เยาวชน วัย 15 ปี ที่ถูกยิงบริเวณศีรษะ กระสุนฝังอยู่ที่ก้านสมองระหว่างการชุมนุมม็อบ 16 ส.ค. ที่หน้า สน.ดินแดง ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกการรวมตัวทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ยังดำเนินไปตามปกติ แต่เมื่อผู้ชุมนุมบางส่วนนำถุงเลือดเข้าไปสาดใส่ศาลพระภูมิ-เจ้าที่ ที่ตั้งอยู่หน้า สน.ดินแดง พร้อมทั้งนำรองเท้าขึ้นวาง จุดไฟใส่กระดาษนำไปวางบนศาลเจ้า และพ่นสีสเปรย์ 

กลายเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ประกาศผ่านเครื่องเสียงว่า “อย่าลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์” และสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าร้อยนายเข้าสลายการชุมนุม 

เบื้องต้นมีผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมระหว่างการสลายชุมนุม 2 ราย ต่อมาทราบภายหลังว่าคืนดังกล่าวมีผู้ถูกจับกุมควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ดินแดงทั้งหมด 5 ราย 

‘อาลีฟ’ เยาวชนอายุ 18 ปี ซึ่งเคยถูกจับกุมดำเนินคดี 112 จากการพ่นสีสเปรย์เป็นข้อความว่า “ควรปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ที่แยกดินแดง เป็นหนึ่งในผู้ถูกจับกุมด้วย เขาถูกจับตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลาย ผู้สื่อข่าวภาคสนามระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการชี้เป้าให้มีการจับกุมเขาโดยเฉพาะด้วย 

ศูนย์ทนายความฯ เปิดเผยว่า ในจำนวนผู้ถูกจับกุม 5 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวเยาวชน 2 รายกลับไปเนื่องจากเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และได้สั่งเปรียบเทียบปรับกับผู้ถูกจับกุมอีก 1 ราย 

ขณะที่ 2 รายถูกส่งฝากขังต่อศาล คือ อาลีฟ และ แซม สาเซม บุคคลไร้สัญชาติที่เคยถูกจับกุม หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นบุคคลที่ทำท่ายืนปัสสาวะบนตู้คอนเทนเนอร์รดใส่หัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม REDEM เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2564

ในส่วนของอาลีฟถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการให้มีการชุมนุมที่มีการรวมตัวมากกว่า 10 คนขึ้นไป ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 

ขณะที่แซม สาแมท ถูกตั้งข้อหา ข้อหาวางเพลิง,ทำให้เสียทรัพย์ ทั้งคู่ได้รับปล่อยตัวชั่วคราวแต่มีเงื่อนไขห้ามเข้ารวมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

หลังจากได้รับการปล่อยตัว อาลีฟ เปิดเผยว่า ในระยะเวลากว่า 9 ชั่วโมง ตั้งแต่ 18.00 น. จนถึง 03.00 น. เขาถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องสืบสวนชั้น 2 ของ สน. ดินแดง สังเกตุเห็นว่าภายในห้องดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด เมื่อเข้าไปได้ไม่นานนักเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ คฝ. ประมาณ 10 คนรุมเตะและต่อย ก่อนจะเริ่มกระบวนการรีดข้อมูล 

โดยข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต้องการคือ ใครเป็นผู้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ คฝ. จนบาดเจ็บสาหัสในคืนวันที่ 6 ต.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันปิดกล่องการรวมตัวกันของกลุ่มวัยรุ่นที่แยกดินแดง 

แต่อาลีฟ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า "ไม่รู้" ว่าใครเป็นคนยิง และเมื่อพยายามที่จะเปลี่ยนเรื่อง ตอบไม่ตรงคำถาม ให้คำตอบไม่ได้ก็จะถูกทำร้ายร่างกายตลอด โดยอาลีฟอ้างว่าเจ้าหน้าที่มีลักษณะผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาทำร้ายร่างกายและสอบถามเรื่องเดิมอยู่ตลอด ขณะที่เขาถูกใส่กุญแจมือไขว้หลัง

“ผมไม่คิดจะสู้อะไรอยู่แล้ว ถูกใส่กุญแจมือไขว้หลัง พวกเขาก็เตะ กระทืบที่หน้าอก จนผมกระอักเลือด อ้วกออกมาเป็นเลือด” อาลีฟ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว

นอกจากนี้เขายังเปิดเผยด้วยว่า มีช่วงที่ถูกเจ้าหน้าที่บังคับให้เขาถอดกางเกงออก ตอนแรกเขาคิดเพียงต้องการตรวจสอบว่า พกพาอาวุธหรือไม่จึงยอมถอดเพื่อให้ตรวจสอบ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่เอาบุหรี่มาจี้ที่เอว และจุดอื่นๆ ในร่างกาย เพียงเพราะต้องการข้อมูลว่า ใครคือคนที่ยิง คฝ. รวมทั้งมีการพูดข่มขู่ด้วยว่า “พวกมึงทำขนาดนี้ กูไม่เอาไปยิงทิ้งน้ำก็บุญแค่ไหนแล้ว” 

เขาอยู่ในกระบวนการลักษณะนี้จึงกระทั่ง 03.00 น. จึงถูกนำตัวออกมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามที่กล่าวไปข้างต้น

ขณะนี้อาลีฟกำลังเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการเเจ้งความในกรณีการซ้อมทรมานต่อไป