ช่วงเช้ามืดของวันที่ 16 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพอิสราเอล (IDF) ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายกองกำลังติดอาวุธฮามาสในพื้นที่ฉนวนกาซา ซึ่งกองทัพอิสราเอลระบุเหตุผล เพื่อตอบโต้การปล่อยระเบิดบอลลูนข้ามชายแดนจากฉนวนกาซาไปยังตอนใต้ของอิสราเอล ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ทุ่งหญ้าใกล้พื้นที่ชุมชนอย่างน้อย 20 จุด โดยปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีทางอากาศขนานใหญ่ครั้งแรก หลังจากการปะทะกันเป็นเวลา 11 วันที่ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงกันเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา

แถลงการณ์ IDF ระบุว่า ฝูงบินรบของกองทัพได้โจมตีฐานที่มั่นทางทหารของกองกำลังฮามาสในเมืองคานยูนิส และเมืองกาซาซิตี้ อ้างว่าพบ ’กิจกรรมก่อการร้าย’ เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า IDF "พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ รวมถึงการเริ่มต้นความเป็นปรปักษ์ ในการเผชิญหน้ากับการก่อการร้ายในฉนวนกาซาอีกครั้ง" ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเป็นที่แน่ชัด

ด้านโฆษกกลุ่มฮามาสได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางทวิตเตอร์ ระบุว่า "ชาวปาเลสไตน์จะเดินหน้าแสวงหาการต่อต้านอย่างกล้าหาญ และปกป้องสิทธิและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาในกรุงเยรูซาเลมต่อไป” 

สำหรับการโจมตีทางอากาศดังกล่าวยังถือเป็นการเปิดฉากสู้รบครั้งแรกของรัฐบาลผสมอิสราเอลชุดใหม่ ภายใต้การนำของ นาฟตาลี เบนเนตต์ ผู้นำพรรคชาตินิยมขวาจัดที่สาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แทนที่อดีตผู้นำที่ครองอำนาจยาวนาน 12 ปีอย่าง เบนจามิน เนทันยาฮู เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 มิ.ย.)

จากแถลงการณ์ของ IDF ระบุว่า ลูกโป่งเพลิงถูกปล่อยออกมา เพื่อประท้วงกิจกรรมการเดินขบวนชูธงของชาวอิสราเอลหลายพันคนผ่านย่านเมืองเก่าในเยรูซาเลมตะวันออกวานนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลใหม่ของอิสราเอล ทั้งนี้ บรรยากาศในการเดินขบวน มีกลุ่มชาวอิสราเอลชาตินิยมขวาจัดและผู้สนับสนุนการตั้งถิ่นฐานในเยรูซาเลมจำนวนมากเข้าร่วม และมีการตะโกนสาปแช่งชาวอาหรับ ทว่าขณะที่มีกลุ่มชาวปาเลสไตน์ออกมาชุมนุมประท้วงตอบโต้ พวกเขากลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมด้วยกระสุนยางและระเบิดสตัน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 30 ราย และถูกจับกุม 17 ราย