ไม่พบผลการค้นหา
BTS - แสนสิริ ลงทุนคอนโดแนวรถไฟฟ้า ใน3ปี มูลค่า 30,000 ล้าน
Oct 17, 2014 08:26

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป ร่วมทุนกับ บริษัท แสนสิริ  เตรียมลงทุนอสังหาริมทรัพย์  มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท   ภายใน  3 ปี ตั้งเป้าปีหน้า  เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียม  ตามแนวรถไฟฟ้า  2-3 โครงการ    มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท 

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด   ลงนามในข้อตกลงร่วมทุนกับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม   บนที่ดินตามแนวรถรถไฟฟ้า   โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 50:50   โดยในความร่วมมือนี้   ทั้ง 2 บริษัท  มีแผนเปิดตัวคอนโดมีเนียมในปีหน้า  ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีหมอชิต มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท   และคอนโดมิเนียม   ตามแนวรถไฟฟ้าอีก 2-3 โครงการ    มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท  ส่วนแผนใน 3 ปี  เตรียมลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์  มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท    สำหรับแบรนด์ของโครงการร่วมทุนนี้    อยู่ระหว่างการศึกษา   คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้านี้เช่นกัน

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ BTS กล่าวว่า บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าทั้งหมด 30 ไร่   ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพสูง    ในการนำมาพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์      และมั่นใจในศักยภาพของแสนสิริ    ที่จะช่วยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตได้   คาดว่าหลังจากเปิดตัวโครงการแรก    จะเห็นความชัดเจนของรายได้ภายใน 30 เดือน
 
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า   การร่วมทุนครั้งนี้   ทำให้แสนสิริเข้าถึงที่ดินที่จะนำมาพัฒนาโครงการได้มากขึ้น   และยังสามารถแชร์ข้อมูลของผู้บริโภคในกลุ่มคนเมือง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่อได้    รวมถึงการทำโฆษณา   ที่บีทีเอสมีความชำนาญและมีช่องทางการเผยแพร่    ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเรื่องโฆษณาไปด้วย 
 
สำหรับแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามแนวโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในอนาคต   ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของรัฐบาลในการเริ่มก่อสร้างแต่ละเส้นทาง  ส่วนที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีจำนวนจำกัดมากขึ้น และมีราคาสูงขึ้น    ทำให้ผู้ประกอบการยังชะลอการลงทุนออกไปบ้าง จึงคาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯในปีหน้า   จะไม่เติบโตมากนัก โดยภาคอสังหาฯจะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัว  แต่การแข่งขันยังคงสูง

ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้   คาดว่าจะสูงกว่าปีก่อน   ที่มีกำไรสุทธิ 1 พัน 9 ร้อยล้านบาท   แม้รายได้อาจจะพลาดเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งปี 57 จะรับรู้รายได้ประมาณ  2 หมื่น 9 พันล้านบาท    จากยอดขายรอโอน หรือ Backlog   ที่มีอยู่  5 หมื่น 2 พันล้านบาท   และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯไปจนถึงปี 2560 
ประกอบกับ บริษัทได้รับผลประโยชน์จากความร่วมมือกับ BTS   ด้านต้นทุนค่าโฆษณาที่ลดลง เนื่องจากได้รับการเอื้อประโยชน์จาก  "วีจีไอ โกลบอล มีเดีย"    บริษัทลูกของ BTS  ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าสิ้นปีนี้     อัตรากำไรสุทธิของบริษัทจะเพิ่มขึ้นมาที่ 12%    จากปีก่อนอยู่ที่ 6.65%    

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ   เปิดเผยว่า ยอดขายในปีนี้ของแสนสิริ    จะออกมาต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 หมื่นล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกของปีนี้ทำได้เพียง 7 พัน 7 ร้อยล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง     ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้    ประกอบกับ บริษัทเปิดโครงการใหม่ต่ำกว่าแผนที่ตั้งไว้ 19 โครงการ รวมมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท หลังจากปรับนโยบายมาเปิดขายโครงการที่ได้รับใบอนุญาตการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม  หรือ อีไอเอ  แล้วเท่านั้น     ทำให้โครงการไหม่ที่อยู่ระหว่างการรออนุมัติอีไอเอ   ต้องเลื่อนเปิดขายออกไปเป็นปี หน้า (58)

ปัจจุบันแสนสิริ   เป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของไทย   ที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  โครงการกว่า 280 โครงการ จำนวนที่อยู่อาศัยกว่า 28,000 ครัวเรือน    ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 15 จังหวัด 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog