ไม่พบผลการค้นหา
แอมะซอนปั้นพนักงานให้ริเริ่มสตาร์ตอัพเดลิเวอรี ให้ทั้งเงินทุน และเงินเดือนสุดท้าย 3 เดือน เพื่อเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับแอมะซอนไพร์ม เพื่อเพิ่มกำลังส่งสินค้า บรรลุเป้าหมายถึงมือลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมง

ด้วยความฝันที่จะส่งสินค้าทุกชิ้นให้ถึงมือลูกค้าภายใน 1 วันทั่วสหรัฐอเมริกา แอมะซอน (Amazon) ยักษ์ใหญ่แห่งโลกอี-คอมเมิร์ซ จึงต้องเพิ่มกองทัพเดลิเวอรีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยทุ่มเงินกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับการลงทุนระบบนิเวศ

ปัจจุบันลูกค้า แอมะซอน ไพร์ม (Amazon Prime) หรือสมาชิกรอยัลตี้ของเว็บไซต์แอมะซอนที่จ่ายค่าสมาชิกปีละ 79 เหรียญสหรัฐฯ โดยได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ ค่าจัดส่งแบบเหมาจ่าย หรือดูฟรีสตรีมมิ่งออนไลน์ของแอมะซอน จะได้รับการันตีสินค้าถึงมือภายใน 2 วัน แต่เมื่อเดือนที่แล้ว แอมะซอนประกาศกร้าวว่า จะลดเวลาการจัดส่งสินค้า ลูกค้าจะได้รับสินค้าภายใน 1 วันเท่านั้น

เพื่อการนั้น แอมะซอนจับมือกับพันธมิตรบริษัทเดลิเวอรีรายเล็กต่างๆ เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์นับตั้งแต่มิถุนายนปีก่อน และล่าสุด แอมะซอนประกาศหนุนพนักงานในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสเปน ที่สนใจจะเปิดสตาร์ตอัพเดลิเวอรีของตนเอง ด้วยเงินทุน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ พร้อมเงินเดือนล่าสุด 3 เดือนหลังออกจากงาน เพื่อให้พนักงานปั้นบริษัทขนส่งของตัวเองเข้ามาร่วมงานกับแอมะซอน

ไม่เพียงเท่านั้น พาร์ทเนอร์เดลิเวอรีของแอมะซอนจะยังได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีโลจิสติกส์ ตลอดจนได้รับการเทรนนิ่ง และส่วนลดค่าอสังหาริมทรัพย์ การเช่าซื้อยานพาหนะ และประกันภัยต่างๆ พร้อมการันตีจากกำไรต่อปีว่า พาร์ทเนอร์จะทำรายได้ได้มากถึง 3 แสนเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี หากสามารถเพิ่มจำนวนรถแวนขนส่งของบริษัทตนได้ถึง 40 คัน


amazonvam
  • พาร์ทเนอร์ขนส่งของแอมะซอนจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการเช่า-ซื้อรถแวน ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ และยังได้ยูนิฟอร์ม น้ำมัน และประกันภัยรวมไปด้วย

นับตั้งแต่ปีที่แล้ว มีธุรกิจรายเล็กกว่า 200 เจ้า เข้าเป็นพาร์ทเนอร์ในโครงการร่วมขนส่งของแอมะซอน และเพิ่มงานตำแหน่งคนขับรถหลายพันตำแหน่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ก่อนจะเปิดตัวโปรแกรมพาร์ทเนอร์เดลิเวอรี แอมะซอนมีโปรแกรม แอมะซอน เฟล็กซ์ (Amazon Flex) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ให้ประชาชนคนทั่วไป มาร่วมงานกับแอมะซอนในการจัดส่งพัสดุด้วยรถยนต์ของพวกเขาเอง ตามแต่เวลาที่แต่ละคนสะดวก อย่างไรก็ตาม แอมะซอนเผชิญปัญหาในการจัดการ เช่น ปัญหาเรียกร้องค่าแรงที่ไม่เป็นธรรม และไม่แน่นอนของคนส่งของ การไม่มีประกันให้กับคนขับ ฯลฯ


อาวุธใหม่ หุ่นยนต์แพ็กของ

อีกหนึ่งความน่าสนใจที่เกิดขึ้นไล่เลี่ยกับการประกาศสนับสนุนพนักงานปั้นสตาร์ตอัพของแอมะซอนคือ การเปิดตัวการทดสอบหุ่นยนต์อัตโนมัติแพ็กของตามออเดอร์ของลูกค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่เรียกว่า สะเทือนอาณาจักรแอมะซอน และวงการอี-คอมเมิร์ซเช่นกัน เพราะเมื่อหุ่นยนต์สามารถทำงานได้สมบูรณ์ มันจะทดแทนตำแหน่งพนักงานหลายพันคน

หุ่นยนต์ดังกล่าว จะแสกนสินค้าที่ไหลมาจากสายพาน ก่อนจะแพ็กลงในกล่องที่ถูกผลิตมาให้เหมาะสมกับแต่ละไอเท็ม เบื้องต้นแอมะซอนจะติดตั้งหุ่นยนต์ 2 เครื่อง ในคลังสินค้าหลายสิบแห่ง ซึ่ง 1 เครื่องจะทดแทนแรงงานได้ 24 ตำแหน่ง ดังนั้น หมายความว่าอนาคตมันจะทดแทนแรงงานหลายพันคน

amazon.jpg

แหล่งข่าวใกล้ชิิดจากแอมะซอนเผยว่า หุ่นยนต์ตัวดังกล่าวชื่อว่า คาร์ตันแร็พ (CartonWrap) ซึ่งผลิตจากบริษัทซีเอ็มซี (CMC Srl) ของอิตาลี มันจะแพ็กของได้เร็วกว่าแรงงานมนุษย์ 4-5 เท่า แพ็กได้มากถึง 600-700 กล่อง/ชั่วโมง ซึ่งหนึ่งเครื่อง ใช้แรงงานมนุษย์ 3 คนก็เพียงพอ

  • คนหนึ่งโหลดสินค้าของลูกค้าเข้าไปในเครื่อง
  • คนที่สองคอยเติมกระดาษแข็งและกาว
  • คนที่สามคือช่างซ่อมบำรุงเผื่อเครื่องมีการติดขัด

โฆษกของแอมะซอนให้เหตุผลว่า "ทางแอมะซอนต้องการที่จะทดสอบเทคโนโลยีใหม่ เพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น การขนส่งที่รวดเร็วขึ้น ทำให้ระบบทั้งหมดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการลดต้นทุนต่างๆ จะนำไปลงทุนใหม่ในบริการใหม่ ซึ่งจะสร้างตำแหน่งงานใหม่ต่อไปในอนาคต"

บรรดาอี-คอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ต่างรู้ดี ว่าทั้งเทคโนโลยีอัตโนมัติ และระบบขนส่งทรงประสิทธิภาพเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่า ใครคือผู้ชนะในสมรภูมิที่แข่งขันกันดุเดือดนี้

อย่างไรก็ตาม แอมะซอนไม่ใช่ผู้เดียวที่ทดสอบเครื่องจากซีเอ็มซี แต่เจดีดอทคอม (JD.com) ชัทเทิลฟลาย (Shuttlefly) วอลมาร์ต (Walmart) ก็ทดสอบเครื่องเดียวกันนี้เช่นกัน

ขณะที่อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์อี-คอมเมิร์ซจีนของเจ้าพ่อ แจ็ก หม่า ก็นำระบบอัตโนมัติเข้าไปใช้ในโกดังในหลากหลายรูปแบบ และตั้งเป้าหมายสำคัญไว้คือ การส่งสินค้าทั่วโลกภายใน 3 วัน การจัดส่งในจีนภายใน 1 วัน โดยปีที่แล้วหม่าประกาศลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการลงทุนโครงข่ายสมาร์ทโลจิสติกส์ครั้งใหญ่ โดยให้บริษัทลูกด้านโลจิสติกส์ของอาลีบาบา อย่าง 'ไช่เหนี่ยวหว่างลั่ว' (Cainiao) ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลการขนส่ง และเชื่อมโยงเครือข่ายของบริษัทโลจิสติกส์ต่างๆ ในทุกเมือง ทุกจังหวัด และทุกประเทศ เข้าด้วยกัน

ที่มา :

On Being
198Article
0Video
0Blog