ไม่พบผลการค้นหา
ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงประกาศมาตรการเข้มงวด กักตัวนักเดินทางทุกคนที่มาจากต่างประเทศเป็นเวลา 14 วัน ยกเว้นมาเก๊าและไต้หวัน หวังควบคุมไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรงในฮ่องกง

มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 19 มี.ค. นี้เป็นต้นไปและยังไม่มีกำหนดว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร โดยจะเป็นการกักตัวที่บ้านหรือต้องอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังทางเวชกรรม ซึ่ง 'นางแคร์รี หล่ำ' ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงระบุว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในฮ่องกงเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ มาตรการเข้มงวดมีความจำเป็น ในหลายประเทศจำนวนผู้ป่วยยืนยันพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก หากฮ่องกงไม่ดำเนินมาตรการเข้มบางอย่างก็กังวลว่าความพยายามป้องกันที่ทำมาทั้งหมดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจะสูญเปล่า และส่งผลกระทบต่อสาธารณสุขของฮ่องกง นอกจากนี้ยังแนะนำชาวฮ่องกงหลีกเลี่ยงการเดินทางทั้งหมดที่ไม่จำเป็นอีกด้วย ส่วนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางการฮ่องกงได้มีคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากจีนแผ่นดินใหญ่กักตัวเองเป็นเวลา 14 วันด้วยเช่นกัน  

ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่รายงานระบุว่า ด้วยมาตรการระยะห่างทางสังคม หรือ Social distancing ที่เข้มงวดร่วมกับการตอบสนองที่แข็งขันของชุมชน ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อเป็นวงกว้างแบบที่เห็นในหลายประเทศได้ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 57 ราย ในจำนวนนี้ 50 ราย มีประวัติเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 157 ราย  

ก่อนหน้านี้ ฮ่องกงได้กำหนดให้ตึกเคหะสาธารณะ 3 แห่ง เป็นสถานที่เพื่อการกักตัวในผู้ป่วยกรณีที่มีความเสี่ยงสูง ส่วนเคสที่ความเสี่ยงไม่รุนแรง ก็จะถูกขอให้กักตัวเองอยู่บ้านหรืออยู่ภายใต้การติตตาม เช่นการใช้แถบรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีเครื่องมือติดตามความเคลื่อนไหว ขณะที่รายงานระบุว่า การระบาดของโควิด-19 กระตุ้นให้ชาวฮ่องกงนึกถึงช่วงการระบาดของโรคซาร์สเมื่อปี 2546 ส่งผลให้การตอบสนองของชุมชนเข้มแข็ง โดยมีทั้งการตั้งเจลล้างมือไว้บริการฟรีตามห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน ซึ่งคนที่จะเข้าไปต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย 

ส่วนที่จับประตู ปุ่มกดลิฟต์ และพื้นผิวอื่นๆที่ถูกคนสัมผัสเป็นประจำก็ต้องมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อวันละหลายครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่สวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มทางสังคมที่มีคนจำนวนมาก นับเป็นเวลากว่า 1 เดือนที่ถนนและพื้นที่สาธารณะหลายแห่งค่อนข้างโล่ง เนื่องจากคนจำนวนมากทำงานจากที่บ้าน โดยบริษัทหลายแห่งก็ยังไม่เรียกพนักงานกลับเข้าออฟฟิศ อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้ส่งผลกระทบไม่น้อยต่อเศรษฐกิจฮ่องกงที่กำลังเผชิญภาวะถดถอยครั้งร้ายแรงในรอบทศวรรษ 

จนถึงตอนนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ทะลุ 182,000 รายแล้ว และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 7,000 ราย  

หลายชาติในเอเชีย-แปซิก มีมาตรการเข้มด้านการเดินทางเข้าเมือง

เวียดนาม - ออกมาตรการกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน ต่อบุคคลทุกสัญชาติที่เดินทางมาจาก หรือแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือเคยพำนักอยู่ในประเทศอาเซียนเป็นเวลา 14 วันก่อนเดินทางถึงเวียดนาม มีผลบังคับใช้ 18 มี.ค. 63

ออสเตรเลีย – นักเดินทางทุกคนต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ส่วนชาวต่างชาติที่เดินทางไปจีน อิหร่าน เกาหลีและอิตาลี ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ

นิวซีแลนด์ - ทุกคนที่เดินทางเข้านิวซีแลนด์ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ยกเว้นผู้ที่มาจากเกาะขนาดเล็กในแปซิฟิกที่ไม่มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 

เกาหลีใต้ - ผู้ที่เดินทางมาจากมณฑลหูเป่ยของจีนไม่ได้รับอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ ส่วนนักเดินทางต่างชาติที่มาจากบางประเทศจำเป็นต้องยื่นเอกสารรับรองสุขภาพ 

สิงคโปร์ - นักท่องเที่ยวทุกคนที่มีประวัติเดินทางไปฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน เกาหลีใต้และจีน ถูกห้ามเดินทางเข้าหรือเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ ส่วนผู้ที่พำนักในสิงคโปร์ หากมีประวัติเดินทางไปยังประเทศต่างๆข้างต้นเมื่อไม่นานมานี้ก็ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ส่วนผู้ที่มาจากญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักรและประเทศในกลุ่มอาเซียน จะต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน 

มาเลเซีย – ห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดเข้าประเทศ ส่วนชาวมาเลเซียทั้งหมดก็ห้ามเดินทางไปต่างประเทศจนถึงวันที่ 31 มีนาคม และชาวมาเลเซียทุกคนที่เดินทางกลับประเทศต้องกักตัว 14 วัน 

ญี่ปุ่น – ห้ามนักเดินทางที่ได้เดินทางไปยังจีน เกาหลีใต้ อิหร่านหรืออิตาลีในช่วง 14 วันก่อนหน้า เดินทางเข้าประเทศ 


อ้างอิง BBC/SCMP/The Straits Times