ไม่พบผลการค้นหา
ป.ป.ช.ทำ MOU เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์กับ ป.ป.ท.เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริต และติดตามตัวผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลและที่ศาลสั่งจำคุกให้รวดเร็วขึ้น

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ว่าด้วยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับการทุจริต ระหว่าง ป.ป.ช.กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. โดยพลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เป็นผู้กล่าวเปิดงานและให้โอวาท สำหรับผู้ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงประกอบด้วย นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. พันตำรวจโทวันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการ ป.ป.ท. รวมถึงรองและผู้ช่วยเลขาธิการของทั้ง 2 หน่วยงาน และมีนางสมพร ครุฑสาคร ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงาน ป.ป.ช.ด้วย

ส่วนการลงนามครั้งนี้เป็นไปเพื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับคดีการทุจริต ตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และยกระดับประเทศไปสู่การเป็น Thailand 4.0 โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลทุกส่วนราชการให้เป็นระบบเดียวกัน เพื่อให้เกิดการบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐในการตรวจสอบและติดตามผลการดำเนินคดี, ทั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต, สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, อัยการ, ศาลและกรมราชทัณฑ์ เพื่อรองรับผลการดำเนินงานของแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติระยะที่ 3 และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ในเรื่องการจัดทำระบบฐานข้อมูลการเชื่อมโยงข้อมูลและการขึ้นทะเบียน

โดย ป.ป.ช.ให้สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานภายนอก เพื่อสนับสนุนงานด้านปราบปรามการทุจริต ทำให้เกิดประโยชน์ในงานด้านแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานการสืบสวนและไต่สวนข้อเท็จจริง รวมถึงการติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดและศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น