ไม่พบผลการค้นหา
'สมคิด' สั่งคลังศึกษาออกพันธบัตรรัฐบาล หาเงินลงทุนเพิ่ม หลังเกิดชัตดาวน์งบฯ ปี 63 เชื่อคนไทยยังเหลือเงินออม ชี้ กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่แบงก์ไม่ลดดอกเบี้ยตามก็เปล่าประโยชน์ มั่นใจ ศก.ปีนี้ยังโตได้ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ แม้เจอมรสุม 5 ด้าน ขณะที่รมว.คลัง คาดสรุปรายละเอียด “ชิมช้อปใช้” 4 ภายในเดือน ก.พ.นี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน Posttoday Economic Forum 2020 ว่า หลังเกิดชัตดาวน์งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ประเมินว่ากว่าที่จะสามารถใช้เงินงบประมาณได้คงล่วงเลยไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เท่ากับว่าเหลือระยะเวลาใช้งบประมาณเพียง 4 เดือนเท่านั้น ซึ่งล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอในการขยายวงเงินงบประมาณไปพลางก่อน จากเดิมไม่เกินกึ่งหนึ่ง หรือ 50 เปอร์เซ็นต์โดยขยายเพิ่มขึ้นเป็น 3 ใน 4 หรือ 75 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินงบประมาณ แต่หากไม่เพียงพอจำเป็นที่จะต้องกู้ก็ต้องกู้เพื่อให้มีเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะเดียวกันขอให้กระทรวงการคลังศึกษาการออกพันธบัตรรัฐบาล ผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นพื้นฐานกองใหม่เพื่อขายให้รายย่อย เพื่อหาเงินมาลงทุนในระหว่างที่รองบฯ ปี 2563 ที่จะออกมา โดยให้ผลตอบแทน 3 เปอร์เซ็นต์ หรือสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะจูงใจให้ประชาชนออมเงินเพราะยังเหลือเงินอยู่

"ทำไมต้องอาศัยงบประมาณอย่างเดียว ออกบอนด์มาให้ดอกเบี้ย 3 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก มีหรือที่คนจะไม่ซื้อ เพราะคนยังมีเงินเหลือออมอยู่ แต่หากยังไม่เพียงพอถ้าจำเป็นที่จะต้องกู้ก็ต้องกู้เพื่อนำเงินมาลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" นายสมคิด กล่าว

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องเป็นที่ค่อนข้างช้า และจะไม่เกิดประโยชน์ หากไม่สามารถทำให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงได้ ดังนั้นขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บี้ให้ธนาคารพาณิชย์ ลดอัตราดอกเบี้ยลงด้วย เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเอกชน ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (ส.อ.ท.) รวมถึงสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยให้ออกมาลงทุน เนื่องจากตัวเลขการลงทุนไม่ขยับมานานกว่า 20 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายสมคิด ยังเชื่อมั่นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2563 จะขยายตัวได้ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเจอมรสุมหนัก 5 ด้าน ทั้งการลงทุนที่ชะลอตัว สงครามการค้า เงินบาทแข็งค่า ไวรัสโคโรนาระบาด และเกิดการชัตดาวน์งบประมาณปี 2563 โดยอยากให้เข้าใจว่าเป็นอัตราที่เติบโต ไม่ใช่หดตัวตามที่หลายฝ่ายกังวล

สมคิด+อุตตมเปิดงานโพสทูเดย์
  • อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการคลัง

ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามนโยบายของนายสมคิด ข้างต้นสามารถที่จะดำเนินการได้ทั้งการกู้เงิน และการขายพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการขับเคลื่อนการลงทุนของประเทศ ส่วนจะขับเคลื่อนการลงทุนจากอะไร และแหล่งใด รวมถึงเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ยังต้องไปดูในรายละเอียด โดยงบประมาณก็เป็นอีกแหล่งหนึ่ง แต่ขณะนี้จะดำเนินการอย่างไรนั้นขอให้รอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินกระบวนการพิจารณางบประมาณ 2563 เสร็จสิ้นก่อน

“ต้องพยายามทำเต็มที่ ว่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ในด้านใดบ้าง และด้วยวิธีอย่างไร เราก็มีการเตรียมการอยู่เหมือนกัน แต่ก็ขอให้มีความชัดเจนในเรื่องงบประมาณก่อน” นายอุตตม กล่าว

ทั้งนี้ นายอุตตม คาดว่า ภายในเดือน ก.พ.นี้ จะสามารถสรุปรายละเอียดของมาตรการชิมช้อปใช้เฟสที่ 4 ได้ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างหารือถึงรายละเอียดและกำหนดหลักเกณฑ์ โดยเงื่อนไขมาตรฐานจะยังเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งอุปโภค บริโภค และการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก