ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการพรรคก้าวไกล จี้รัฐบาลพิสูจน์ความชอบธรรมทางการเมืองผ่านการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมศูนย์อำนาจต้องจบปัญหาให้เร็ว ขอประชาชนอย่าเสียศรัทธากับระบบประชาธิปไตย แม้ผิดหวังจากความล้มเหลวของหลายรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ แนะต้องปฏิรูปกองทัพหลังเกิดปัญหาสนามมวยที่รัฐบาลพลเรือนเข้าไปแตะไม่ได้

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ‘วอยซ์ ออนไลน์’ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการเรื่องไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สะท้อนปัญหาของระบบการเมืองหลายอย่างที่สืบเนื่องมาจากรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการมีรัฐบาลที่ไม่มีเอกภาพ เพราะรัฐธรรมนูญออกแบบมาแบบนี้ อีกทั้งโควิด-19 ยังทำให้เห็นผลกระทบจากโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งหลังจากนี้ เมื่อต้องฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ จะเดินแบบเก่าไม่ได้ ทั้งการพึ่งพาการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมแบบเก่า และตลาดภายในประเทศแบบเก่า หรือปัญหาเรื่องสนามมวยลุมพินีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 มาก ทั้งที่มีคำขอให้ยุติการจัดการแข่งขันกีฬาชกมวย มันสะท้อนให้เห็นว่ากิจการของกองทัพมีเอกสิทธิ์ที่รัฐบาลพลเรือนไม่สามารถเข้าไปกำกับควบคุมได้ นำไปสู่ความจำเป็นเรื่องการปฏิรูปกองทัพ

นายชัยธวัช ระบุว่า ตนในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ยอมรับว่า ไม่ต้องการเห็นรัฐบาลล้มเหลวเพราะความล้มเหลวของรัฐบาลย่อมจะส่งผลร้ายแรงต่อคนในชาติ ต่อตนเอง และครอบครัว ทุกคนคือเพื่อนร่วมชาติ และทุกคนก็หวังว่ารัฐบาลจะนำพาประเทศชาติฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้ แต่ในฐานะพรรคฝ่ายค้านก็พยายามที่จะแสวงหาทางออกที่เป็นทางเลือกมากขึ้น หากเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ ไม่มีประสิทธิภาพ หรือยังไม่รอบด้าน นี่คือบทบาทที่จะตรวจสอบ ผลักดัน อันไหนที่รัฐบาลทำถูกทางแล้วก็พร้อมจะสนับสนุน แต่สิ่งที่จะเป็นบททดสอบที่สำคัญคือ ถ้าหากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน คือ การเลือกใช้อำนาจรวมศูนย์ ถือเป็นเดิมพันสำคัญ เพราะถ้ารวบอำนาจไปบริหารจัดการแล้วไม่เสร็จ ผลสะท้อนทางการเมืองที่จะตีกลับไปยังรัฐบาลย่อมหนักหนาสาหัสและสูญเสียความชอบธรรมทางการเมือง แต่ตนก็คาดหวังไม่ให้เป็นแบบนั้น  

ทั้งนี้ ตนเห็นว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเหมือนดาบสองคม อารมณ์ของสังคมตอนนี้ต้องการบริหารจัดการที่รวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ แต่ควรใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าวนี้อย่างได้สัดส่วน เช่น ไม่ควรใช้อำนาจนี้จำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน และประชาชนในการวิพากษณ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เพราะจะเป็นกระจกของสังคมที่จะสะท้อนมาตรการที่ออกมาบกพร่องหรือไม่ อย่างไร หรืออำนาจในการควบคุมตัว เรียกมารายงานตัว บุกค้นโดยไม่ต้องมีหมาย เป็นต้น นอกจากนี้เมื่อผ่านวิกฤตนี้ไปได้แล้ว โจทย์ต่อมาคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์รัฐบาลอีกเช่นกัน

ชัยธวัช ตุลาธน

ส่วนเรื่องระบบราชการของประเทศไทย เป็นระบบแบบรวมศูนย์แต่ไม่มีเอกภาพ รวมศูนย์กลางอำนาจแต่แตกกระจาย รวมศูนย์แต่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นว่าระบบรวมศูนย์อำนาจแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ ถ้ามีการกระจายอำนาจอย่างมีเอกภาพ ท้องถิ่นจะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่านี้ อีกทั้งในอนาคตเอง โลกก็มีโอกาสที่ต้องประสบกับสาธารณภัยใหม่ ซึ่งกลไกของรัฐไทยแบบเดิม มันไม่น่าจะตอบโจทย์ เช่น การจัดการเรื่องความมั่นคง สภาความมั่นคงเอง ยังยังถูกครอบงำด้วยทหาร ทั้งที่โลกไม่ได้เผชิญหน้ากับความมั่นคงทางทหารแบบสงครามเย็น กลับกันองค์กรเรื่องความมั่นคงในประเทศต้องการพลเรือนที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เป็นองค์กรทางการทหาร เห็นได้จากวิกฤตโควิด-19 เราไม่มีการบริหารจัดการแบบใหม่ขององค์กรพลเรือนที่มีความรู้พร้อม และมีประสิทธิภาพ เข้าใจปัญหาเรื่องโรคระบาด มีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเข้ามาแก้ปัญหา

นายชัยธวัช ย้ำว่า หลายๆ เรื่องไม่สามารถแก้ได้ด้วย พ.ร.ก. ฉุกเฉินเพียงลำพัง ต้องขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ที่จะคิดให้ไปไกลกว่าสถานการณ์หนึ่งขั้นเพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างรอบด้าน การมีวิสัยทัศน์ การกล้าตัดสินใจ หรือความสามารถในการสื่อสารกับประชาชนว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร ตนคิดว่าตอนนี้ประชาชนต้องการรู้ว่าอะไรคือยุทธศาสตร์ชาติในการฝ่าวิกฤต ว่าจะใช้เส้นทางแบบไหน ไม่มีการสื่อสารว่าจะใช้ยาแรง ยาเบา หรือคนงาน ผู้ประกอบการ ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปนานแค่ไหน เพื่อที่จะเตรียมแผนรับมือล่วงหน้า ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาจากกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของความสามารถในการบริหารประเทศในสถานการณ์วิกฤต

เลขาธิการพรรคก้าวไกล เป็นห่วงที่คนบางส่วนเริ่มรู้สึกว่านักการเมืองหรือพรรคการเมืองไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการบริหารประเทศ แต่ตนอยากเน้นย้ำว่า ระบบการเมืองที่ดี ระบบรัฐสภาที่ดี เป็นเรื่องสำคัญมากในการบริหารจัดการประเทศหลังจากนี้ ความล้มเหลวของรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นปัญหาของพรรคการเมือง เป็นปัญหาของแกนนำรัฐบาล ไม่ได้เป็นปัญหาของระบบรัฐสภาหรือระบบประชาธิปไตย ต้องแยกส่วนออกจากกัน

"เราออาจจะไม่ชอบรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่เกี่ยวกับระบบประชาธิปไตย ซึ่งแนวทางตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่จนถึงพรรคก้าวไกล คือการการทำการเมืองที่ดีและสร้างสรรค์ให้ได้ ไม่ใช่มองว่าวันนี้ไม่พอใจนักการเมือง ไม่ชอบพรรคการเมืองแล้วหันไปหาอำนาจนอกระบบ ตนยังเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้ชอบการรัฐประหาร แต่เขาไม่ศรัทธาในนักการเมืองและระบบรัฐสภาที่เป็นอยู่ แต่ในมุมกลับ นอกจากจะปฏิรูปกองทัพเพื่อไม่ให้เกิดรัฐประหารแล้ว แต่ต้องปฏิรูปให้ระบบรัฐสภาเป็นที่ศรัทธาของประชาชนด้วย" เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุ   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง