ไม่พบผลการค้นหา
เลือกความสงบจบที่ 'ลุงป้อม' สโลแกนใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลัง กลุ่ม-ก๊วน บรรดา ส.ส. เขี้ยวลากดิน ออกมาเขย่า-ขย่ม เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคจาก 'อุตตม สาวนายน' รมว.คลัง รักษาการหัวหน้า พปชร. เป็น 'พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ' รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน

เมื่อเดินเกมให้ 18 กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพปชร. ยื่นใบลาออกได้สำเร็จ เท่ากับว่า “ลุงป้อม” ยึดพรรค พปชร.จาก “4กุมาร” เบ็ดเสร็จเด็ดขาด 

การคัดเลือก หัวหน้าพรรค-กก.บห.พรรค ในวันที่ 3 ก.ค. “ลุงป้อม” แบเบอร์นอนมาแบบไร้คู่แข่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม  

ชื่อตัวเต็งนั่งเก้าอี้เลขาธิการ พปชร. โฟกัสไปที่ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง เจ้าของอาคารรัชดา ONE ถนนรัชดาภิเษก 32 ตรงข้ามศาลอาญา ที่ทำการพรรคพปชร.แห่งใหม่ ดวลกับ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ น้องรัก “2 ส.” สองมิตร สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม

ช่วงนี้จับตา ข่าวลือ-ข่าวปล่อย ศึกแย่งเก้าอี้เลขาธิการพปชร. ก่อนหน้านี้ชื่อ “สันติ” มาแรง ใช้โมเดล “อนุชา” ยอมถอย เพื่อส่ง “สุริยะ” นั่งเก้าอี้ รมว.พลังงาน แทน “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พลังงาน

มาวันนี้มีกระแสข่าวว่า “ลุงป้อม” กระซิบกับ ส.ส.ภาคใต้ เคาะชื่อ “อนุชา” นั่งแม่บ้านพปชร. หลังทำงานเข้าขา-โดนใจ ช่วงที่คอยประสานงานในฐานะรองประธานยุทธศาสตร์พรรค “ลุงป้อม” เลยไว้ใจ “อนุชา” มากกว่า “สันติ”

อนุชา วิรัช พุทธิพงษ์ พลังประชารัฐ รัฐสภา

เมื่อ “ลุงป้อม” ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ “ขั้วสันติ” “ขั้วอนุชา” ยังต้องขับเคี่ยวกันทั้งบนดิน-ใต้ดิน แต่ไม่มีใครกล้าเปิดหน้าออกมาขย่มกันผ่านสื่อ เพราะกลัว “ลุงตู่-ลุงป้อม” จะไม่สบอารมณ์

โดยศึกภายใน พปชร.ชั่วโมงนี้จะนิ่งๆ ทุกความเคลื่อนไหวถูก “ลุงตู่-ลุงป้อม” สยบอยู่หมัด แต่ความเป็น กลุ่ม-ก๊วน ทำให้พรรคพปชร.ไม่สงบจริง ต่างกลุ่มต่างก๊วน ต่างเก็บอาการ-เก็บความแค้น รอจังหวะระเบิดศึกรอบใหม่

โดยกลุ่ม-ก๊วนภายใน พปชร. แบ่งแยกย่อยดังนี้ 

“กลุ่ม 4 กุมาร” เป็นขั้วอำนาจเก่าที่กำลังจะหมดอำนาจลง นำโดย “อุตตม สาวนายน” รักษาการหัวหน้าพรรค และรมว.คลัง “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รักษาการเลขาธิการพรรค และรมว.พลังงาน “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ชักใยโดย “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตั้งนิ๊กเนมอีกชื่อว่า “กลุ่มคนดี”

“4 กุมาร-คนดี” มี ส.ส. อยู่ในมือต่ำกว่า 15 คน อาทิ สันติ กีระนันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ วิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรชัย ตระกูลวรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผนึกกำลังกับ “6 ส.ส.โลกสวย” นำโดย “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลุ่ม 6 ส.ส. ถือเป็นเด็กสายตรงของ “สนธิรัตน์” ที่มอบหมายภารกิจให้สู้ในสงครามตัวแทน ทั้งที่รู้ว่า “แพ้” แต่ยังโชว์ความละอ่อนทางการเมือง

ประวิตร-ประชุม พปชร. อุตตม สนธิรัตน์ พลังประชารัฐ

เมื่อ “4 กุมาร-คนดี” มี ส.ส. ต่ำกว่า 15 คน จึงยากที่จะสู้รบปรบมือกับ เสือ-สิงห์ ทางการเมืองภายในพรรคพปชร. ยิ่งพรรษาการเมืองอ่อนแอ-ละอ่อน ก็ต้องพ่ายแพ้ม้วนเสื่อกลับบ้านไปโดยปริยาย

“กลุ่ม2ส.-1ว.” ประกอบด้วย “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง “วิรัช รัตนเศรษฐ์” ประธานวิปรัฐบาล “สุชาติ ชมกลิ่น” ส.ส.ชลบุรี ประธานส.ส.พรรคพปชร. โดยมี ส.ส. อยู่ในคอนโทรล 20-25 คน มี ส.ส. ในสังกัดบางคนไม่อยู่นิ่ง ย้ายค่ายสลับไปมา “สุชาติ” ดึงกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ บางส่วนมาอยู่ในสังกัด และผนึกกับ “สันติ” ที่พยายามดึง ส.ส.ภาคเหนือ ที่อยู่ในสังกัดของ “ผู้กองมนัส” ให้มาอยู่ภายใต้ร่มเงา

นอกจากนี้ยังมี ส.ส.เพื่อไทย บางส่วนที่ “สันติ” ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว สมัยเคยรุ่งเรืองกับ พรรคพลังประชาชน-พรรคเพื่อไทย ดึงมาเติมเสียง ส.ส. ใช้สูตรตัวไม่ต้องมา แค่มีใจให้กันก็พอ ขณะที่ “สุชาติ” มอบหมายให้ “เสี่ยลาว” พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ทาบทาม ส.ส.อีสาน จากพรรคเพื่อไทย ให้ย้ายขั้ว-ย้ายสังกัด เพื่อมาเติมเสียงเช่นกัน แต่โดน “บิ๊กบอส” เบรกเอาไว้ก่อน

“กลุ่มสามมิตร” ที่เหลือเพียง 2 ส. “สุริยะ-สมศักดิ์” มี ส.ส. อยู่ในสังกัด ต่ำกว่า 30 คน แกนหลักยังเป็นกลุ่มส.ส.ที่ผนึกกันมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคพปชร. อาทิ “บุญยิ่ง นิติกาญจนา” ส.ส.ราชบุรี “ภิญโญ นิโรจน์” ส.ส.นครสวรรค์ “สรวุฒิ เนื่องจำนงค์” ส.ส.ชลบุรี ขณะที่สายภาคเหนือ มี ส.ส.กำแพงเพชร อยู่ในสังกัด อาทิ “ปริญญา ฤกษ์หร่าย” “อนันต์ ผลอำนวย”

ส่วนที่ “สุริยะ-สมศักดิ์” ดึงมาชุบเลี้ยง อาทิ “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. สถาปนาตัวเองเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน รบทุกสนาม-รบทุกขั้วใน พปชร. เพื่อโชว์ผลงานตามที่ “สุริยะ-สมศักดิ์” คอยให้คำแนะนำ นอกจากนี้ยังมี ส.ส.ภาคใต้ อาทิ “วันชัย ปริญญาศิริ” ส.ส.สงขลา มาช่วยเป็นกำลังเสริม

“กลุ่มผู้กองมนัส” ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มี ส.ส.ในสังกัด ต่ำกว่า 40 คน เน้นหนักไปที่ ส.ส.ภาคเหนือ ซึ่ง “ผู้กองมนัส” เป็นเจ้าของพื้นที่ แถมยังดึง “ไผ่ ลิกค์” ส.ส.กำแพงเพชร มาร่วมงาน คอยตอบโต้ “สิระ” จากค่ายสามมิตร

นอกจากนี้ “ผู้กองมนัส” ยังมี ส.ส.อีสาน ร่วมก๊วน อาทิ “เอกราช ช่างเหล่า” เพื่อนรัก-เพื่อนเลิฟกันมานาน ส่วน ส.ส.ใต้ “ผู้กองมนัส” ยังคอยเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี อาทิ สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

“ผู้กองมนัส” ยังเคลมคอยแจก “กล้วย” ให้กับ ส.ส.พรรคเล็กเบี้ยตัวแตก อีกจำนวนนึง จึงพยายามอ้างว่า ส.ส.ที่อยู่ในสังกัดมียอดสูงถึง 60 คน

9พรรคเล็ก ธรรมนัส

“กลุ่ม กทม.” นำโดย “เสี่ยตั๊น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ “พุทธิพงษ์ ปุณณ์กันต์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มี ส.ส.กทม. ในสังกัดต่ำกว่า 5 คน อาทิ “กานต์กนิษฐ์ แห้วสันติ” “ชาญวิทย์ วิภูศิริ” “จักรพันธ์ พรนิมิตร” ขณะที่ ส.ส.กทม.ที่เหลือแตกไปสังกัด “กลุ่ม 6 ส.ส.” และ “กลุ่มสะดวกซื้อ”

“กลุ่มสะดวกซื้อ” มีต่ำว่า 25 ส.ส.กลุ่มนี้ไม่มี กลุ่ม-ก๊วน อย่างแน่นอน หาก “กลุ่ม-ก๊วน” ใดต้องการเพิ่มเติมเสียง หรือจัดอีเวนท์รวบรวมเสียง เพื่อแสดงพลังทางการเมือง สามารถเรียกใช้ “กลุ่มสะดวกซื้อ” ได้ทันที สามารถเคลมยอด ส.ส. ได้ แต่ไม่สามารถนับรวมยอดได้

ทั้งหมดคือ “กลุ่ม-ก๊วน” ของ ส.ส.พปชร. ที่ยังต้องอยู่ร่วมกันด้วยความหวาดระแวง หาก “กลุ่ม-ก๊วน” ไม่แข็งแรงพอ ก็จะตกเป็น “เบี้ยล่าง” เหมือนที่ “สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์” โดนไล่ต้อนจนหมดที่ยืนในพรรค พปชร.  

3 ก.ค. 2563 เดี๋ยวก็รู้ใครอยู่ ใครไปใน กก.บห. พปชร. ชุดใหม่ แล้วจะได้รู้กันว่าใครคือตัวจริง เสียงจริง!

พลังประชารัฐ ประวิตร 626097003891643_n.jpg

ข่าวที่เกี่ยวข้อง