ไม่พบผลการค้นหา
สะพานรถยนต์เชื่อมประเทศจีนและรัสเซียแห่งแรกสร้างเสร็จแล้ว ตามหลังสะพานรถไฟสองประเทศแห่งแรกที่สร้างเสร็จไปเมื่อเดือนมีนาคม คาดว่าสะพานแห่งนี้จะเพิ่มโอกาสในการส่งออกด้วย

วันที่ 29 พฤศจิกายน สำนักข่าวอาร์บีซี (RBC) และอาร์ที (RT) ของรัสเซีย รายงานว่าสะพานรถยนต์แห่งแรกที่เชื่อมระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศจีนสร้างเสร็จแล้ว ภาพจากพิธีเปิดเผยให้เห็นรถบรรทุกวิ่งข้ามสะพานแห่งนี้ซึ่งวางตัวเหนือแม่น้ำอามูร์ (Amur River) ซึ่งจับตัวเป็นธารน้ำแข็งอยู่เบื้องล่าง

สะพานดังกล่าวเป็นสะพาน 2 เลนเชื่อมเมืองเห่ยเหอ (Heihe) ทางตอนเหนือของจีนเข้ากับเมืองบลาโกเวชเชนสค์ (Blagoveshchensk) ทางตะวันออกของรัสเซีย

ทางรัสเซียและจีนได้เชื่อมต่อสะพานจากฝั่งของตัวเองเข้าด้วยกันในเดือนพฤษภาคม 2019 นับเป็นเวลา 3 ปีหลังจากลงนามในสัญญาก่อสร้างครั้งนี้เมื่อเดือนธันวาคม 2016 โดยเป็นการแบ่งกันสร้างฝั่งละ 540 เมตร

สะพานระยะทางราว 1,080 เมตรนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสะพานไฮเวย์ 19.9 กิโลเมตรเชื่อมรัสเซียกับจีน มูลค่าราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ruptly -blagoveshchensk heihe bridge

วาซีลี ออร์ลอฟ ผู้ว่าการแค้วนอามูร์ (Amur Oblast) กล่าวในพิธีเปิดว่าสะพานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงยุทธศาสตร์

"สะพานนี้จะเปิดโอกาสทางการส่งออกให้กับเรา" ออร์ลอฟกล่าว

อเล็กซานเดอร์ คอซลอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาพื้นที่รัสเซียตะวันออกไกล กล่าวว่าสภาพอากาศในภูมิภาคนี้เป็นอุปสรรคต่อการค้าชายแดนมาตลอดหลายปี แต่โครงการเปี่ยมความทะเยอทะยานนี้จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้

เขายังกล่าวอีกว่าหลังสะพานแห่งนี้เปิดใช้งาน สินค้าขนส่งอาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 8 เท่าเป็น 4 ล้านตันต่อปี รวมถึงจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย แม้ในช่วงแรกยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้ แต่จำกัดให้เฉพาะรถบรรทุกสินค้าวิ่งเท่านั้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาอีกราวปีครึ่งในการสร้างจุดผ่านแดนซึ่งจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนใช้เส้นทางนี้ 2 ล้านคนต่อปี

สะพานแห่งนี้มีกำหนดเปิดให้รถบรรทุกสินค้าใช้ในเดือนเมษายน 2020 และคาดว่าจะเปิดให้รถยนต์โดยสารสัญจรได้ในช่วงกลางปี 2021

ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน สะพานรถไฟแห่งแรกที่เชื่อมรัสเซียกับจีนก็สร้างเสร็จแล้วเช่นกัน โดยเป็นสะพานระยะทาง 2.2 กิโลเมตรเชื่อมเขตเนซเนียลีนินสกอย (Nizhneleninskoye) ในรัสเซียเข้ากับเมืองถงเจียงมณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน

ที่มา: Moscow Times / RT

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: