ไม่พบผลการค้นหา
รมว.คลัง เผย คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ตีกลับกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอี วงเงิน 50,000 ล้าน สั่ง สสว.ปรับเงื่อนไขใหม่ครอบคลุมกลุ่มหนี้เสียด้วย คาดเสนอ ครม. เร็วสุด คือ อีก 2 สัปดาห์ ดึง บสย. แก้ขัด ค้ำประกันซอฟต์โลน 30,000 ล้าน

วันที่ 10 ก.ค. นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ว่า ความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนโครงการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่เคยได้รับสินเชื่อกับสถาบันการเงิน และไม่มีสินเชื่อคงค้างกับสถาบันการเงิน วงเงิน 50,000 ล้านบาท ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เบื้องต้นคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ได้สั่งให้ สสว.กลับมาปรับปรุงรายละเอียดโครงการใหม่เพื่อให้รัดกุมและครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่มีหนี้เสีย และให้กลับมาเสนอใหม่ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากไม่มีติดขัด จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในสัปดาห์ถัดไป 

อย่างไรก็ตามในส่วนของกองทุนฯ 50,000 ล้านบาท คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ยังไม่สรุปว่าจะให้ใช้เงินกู้ส่วนแผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการสั่งให้โยกการใช้เงินหลายรอบ

ทั้งนี้เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในเร่งด่วน เบื้องต้นที่ประชุมได้สรุปว่าจะให้บรรษัทประกันสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อใช้วงเงินกู้ซอฟต์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วงเงินค้ำประกัน 30,000 ล้านบาท เพื่อให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อีกประมาณ 40,000-50,000 ราย แต่ไม่ใช่ โครงการ PGS9 อย่างไรก็ตามอาจจจะมีการปรับการเงื่อนไขวงเงินกู้ให้ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เหลือไม่เกิน 15 ล้านบาท เพื่อให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อจำนวนมากขึ้น โดยสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากไม่ต้องเสนอ ครม.

นอกจากนี้ รมว.คลัง ระบุว่า ได้สั่งให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารออมสิน ไปหามาตรการพิเศษเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมเท่านั้น โดยให้ไปพิจารณาว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง และจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่

อ่านเพิ่มเติม