ไม่พบผลการค้นหา
วีซ่าเปิดรายงานชี้ร้อยละ 78 ของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้เงินผ่านช่องทางดิจิทัล เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 50 ขณะที่คนไทยร้อยละ 60 สามารถใช้ชีวิตประจำวันภายใน 1 วัน โดยไม่ใช้จ่ายผ่านเงินสดได้

ผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี 2561 ของวีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Survey 2018) พบว่าร้อยละ 78 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 4,000 คน จาก 8 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 500 ราย) มีความพยายามใช้เงินผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างเดียวในชีวิตประจำวัน ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมา ที่มีเพียงร้อยละ 50 

ส่วนผู้บริโภคชาวไทยมากถึงร้อยละ 57 นิยมทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล อาทิ บัตรเดบิต/เครดิต แอปพลิเคชั่นการชำระเงินบนสมาร์ทโฟน คิวอาร์โค้ด เมื่อเทียบกับการใช้เงินสดที่มีร้อยละ 43 

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การที่คนไทยมีความเชื่อมั่น และใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิตอลมากขึ้นเป็นผลมาจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมผลักดันระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (National e-Payment) ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง  อีกทั้งการที่คนไทยหันมาชำระเงินผ่านช่องทางดิจิตอลมากขึ้น เป็นผลมาจากเทคโนโลยีการชำระเงินที่มีหลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับมีร้านค้าที่รับชำระเงินดิจิทัลมากขึ้น 

โดยในปัจจุบัน ผู้บริโภคสามารถชำระเงินด้วยอุปกรณ์เชื่อมต่อที่หลากหลาย อาทิ สมาร์ทโฟนแอปพลิเคชั่น อุปกรณ์สวมใส่ และการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยสำหรับร้านค้าที่เคยรับแต่เงินสดเพียงอย่างเดียว ยังมีคิวอาร์โค้ดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการรับชำระเงินที่รวดเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ร้อยละ 42 ของคนไทย พกเงินสดน้อยลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจปีก่อน ที่มีเพียงร้อยละ 26 เท่านั้น โดยเหตุผลหลักที่ผู้บริโภคพกเงินสดน้อยลง ร้อยละ 35 มาจากความไม่ปลอดภัยในการพกเงินสด ร้อยละ 65 นิยมชำระผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น และร้อยละ 39 ไม่สะดวกใช้เงินสด

อีกทั้งยังว่า ร้อยละ 60 ของคนไทยใช้เงินผ่านช่องทางดิจิทัลเพียงอย่างเดียว โดยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้หนึ่งวัน โดยไม่ใช้เงินสด และร้อยละ 45 ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสดเลยได้นานกว่า 3 วัน  

ดังนั้น โดยภาพรวมแล้ว มีคนไทยจำนวนมากขึ้น ที่แสดงความมั่นใจว่าประเทศไทยจะพัฒนาเป็นสังคมไร้เงินสดได้ในอนาคต ซึ่งกว่าหนึ่งในสาม หรือร้อยละ 29 มีความมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้ภายใน 3 ปี เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีเพียงร้อยละ 11 เท่านั้น และกว่าร้อยละ 39 เชื่อว่าจะใช้เวลา 4-7 ปี เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสด ขณะที่คนไทยร้อยละ 6 เห็นว่าจะต้องใช้เวลามากกว่า 15 ปี 

"จากผลสำรวจดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ดี และทำให้มั่นใจได้ว่าวีซ่าได้เดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการแสดงให้ผู้บริโภคและร้านค้าตระหนักถึงประโยชน์จากการชำระเงินรูปแบบดิจิทัล ดังนั้นจึงยังมุ่งมั่นร่วมมือกับทุกภาคส่วนในระบบนิเวศน์การชำระเงิน และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ จากเครือข่ายของวีซ่าทั่วโลก เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้อย่างเต็มตัว" นายสุริพงษ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :