ไม่พบผลการค้นหา
คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เคาะหน้ากากอนามัย-เจลล้างมือ เป็นสินค้าควบคุม บังคับผู้ผลิต-นำเข้า-ส่งออก ต้องแจ้งราคาต้นทุน ราคาจำหน่าย และขออญาตส่งออกหากเกินปริมาณกำหนด เตรียมเสนอ ครม. 4 ก.พ.นี้ ขณะเดียวกันยังเตรียมจำกัดปริมาณซื้อ 1 คนไม่เกิน 10 ชิ้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) วันนี้ (3 ก.พ.2563) ว่าที่ประชุมมีมติให้หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จัดเป็นสินค้าควบคุม โดยกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก จะต้องแจ้งข้อมูลราคาซื้อ ราคาขาย ปริมาณการนำเข้า ปริมาณการส่งออก และสต็อกที่มีให้กับกรมการค้าภายใน (คน.) รับทราบ ซึ่งสามารถที่จะกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย กระจายสินค้าไปในพื้นที่ที่ขาดแคลนสินค้าดังกล่าวได้ด้วย ส่วนในเรื่องของการส่งออก กำหนดให้ผู้ส่งออกจะต้องแจ้งขออนุญาตทุกครั้ง หากจะต้องนำสินค้าออกนอกประเทศเกิน 10 กล่อง หรือ 500 ชิ้น

จุรินทร์ประชุม คกก. ควบคุมราคาสินค้า

รมว.พาณิชย์ ระบุว่า จะมีการนำมติดังกล่าวเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในวันที่ 4 ก.พ. 2563 หาก ครม.เห็นชอบจะประกาศให้หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุมได้ทันที

อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้สินค้าทั้ง 2 ประเภทเป็นสินค้าควบคุมนั้น จะดำเนินการในช่วงสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์โรคระบาด และความต้องการสินค้ากลับเข้าสู่สภาวะปกติจะถอดออกจากรายการสินค้าควบคุม

"ยอมรับว่าหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ เริ่มขาดแคลนในบางพื้นที่ บางจุด ขณะที่บางจังหวัดเริ่มพบว่าขาดแคลนทั้งหมด หลังจากผู้บริโภคเริ่มกลัวว่าไม่มีสินค้าใช้ ทำให้ซื้อเกินปริมาณ ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องจัดให้สินค้าทั้ง 2 ประเภทเป็นสินค้าควบคุมเพื่อให้เพียงพอใช้ในประเทศเสียก่อน" นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การกำหนดให้สินค้าทั้ง 2 ประเภทเป็นสินค้าควบคุม จะทำให้สามารถควบคุมปริมาณ และราคาจำหน่ายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหากพบว่า มีการจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าต้นทุนมากผิดปกติ เช่น หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา พบว่าราคาอยู่ที่ 8-10 บาท ส่วน N95 บางรุ่นอยู่ที่ 60 บาท ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ค้าที่ตลาดสำเพ็งไปแล้ว 1 ราย หลังพบว่ามีการจำหน่ายหน้ากาก N95 ในราคาสูงถึง 80 บาท

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในยังได้เตรียมจำกัดปริมาณการซื้อหน้ากากอนามัยในประเทศ โดยประเมินว่าความเหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์ หรือจำกัดปริมาณซื้อไม่เกิน 1 คนต่อ 10 ชิ้น คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในวัน 7 ก.พ. 2563

อธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ำว่า เมื่อประกาศให้หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุมแล้ว แต่ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายไม่ยอมแสดงราคาต้นทุนและราคาจำหน่าย รวมถึงสต็อกคงค้าง จะมีความผิดตามกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละ 2,000 บาท และหากพบผู้ผลิต และผู้จำหน่ายเพิกเฉย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบว่ามีการโก่งราคา และกักตุนสินค้าทำให้เกิดความปั่นป่วน มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ