ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ชำแหละงบประมาณไทย ดันไทยสร้างอุตสาหกรรมรถไฟรางเบา 4 จังหวัดสร้างงานตามรายทาง แนะจัดสรรงบฯ ทุกหน่วยงานให้เริ่มต้นจากศูนย์บาทก่อน ตัดงบฯ กลาโหม 2 โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ - ทหารบริการ

ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุในเวที "อนาคตงบประมาณไทย อนาคตใหม่ประชาชน" ว่า การจัดสรรงบประมาณรัฐที่ผ่านมา พบเป้าหมาย 2 อย่าง คือ เพื่อให้ให้กลุ่มผู้มีอำนาจครองอำนาจต่อไปได้ กับจัดสรรงบประมาณเพื่อซื้อความภักดี ซึ่งไม่เห็นการจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างแท้จริง ดังนั้น จำเป็นต้องเข้าใจภาพใหญ่เพื่อจัดสรรหรือใช้งบประมาณรัฐ ให้เป็นกลไกแก้ไขปัญหาประเทศ โดยพรรคอนาคตใหม่ เห็นปัญหา 5 อย่างที่สำคัญ คือความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ การใช้งบประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ ระบบราชการที่รวมศูนย์และขีดความสามารถทางการแข่งขันที่ลดลง ซึ่งนับแต่ปี 2557 เป็นต้นมาประสิทธิภาพการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐลดลงทุกปี ล่าสุดเบิกจ่ายได้เพียงร้อยละ 58 เท่านั้น แสดงว่าเม็ดเงินไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างจริงจัง

นายธนาธร ระบุถึง ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซากโดยเฉพาะในภาคอีสานนั้น หากดูแผนงานของรัฐบาลที่จะใช้บริหารจัดการน้ำ มี 5.9 หมื่นล้านบาทที่เป็นงบลงทุนโดยตรงและงบบริหารจัดการเพื่อจัดเก็บน้ำ 359 ลูกบาศก์เมตร ต่อปีนั้น จะใช้เวลาให้ได้ผลสัมฤทธิ์ถึง 140 ปี ถ้าใช้แผนงานปี 2563 เป็นมาตรฐาน สำหรับงบลงทุนภาครัฐจำนวน 6.6 แสนล้านบาทนั้น หากตัดงบรายจ่ายทั่วไปไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านพักข้าราชการ ซื้อโต๊ะเก้าอี้ หรือรถประจำตำแหน่งต่างๆ ออกไป จะเหลืองบลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศจริงๆเพียง 2.8 แสนล้านบาทเท่านั้น

ธนาธร อนาคตใหม่ 00113_0006.jpg

แนะกระจายอำนาจงบฯ ส่วนกลางไปท้องถิ่น

นายธนาธร ยืนยันว่า การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพต้องมี 3 อย่างคือ ต้องมีความมุ่งมั่นและเจตจำนงต้องมีอำนาจและสุดท้ายคือ ต้องเปลี่ยนวิธีการจัดสรรงบประมาณ พร้อมอธิบายการจัดสรรผ่านนโยบาย 4 ข้อใดเพื่อแก้ปัญหาประเทศและให้เดินไปข้างหน้าภายใต้วิสัยทัศน์ "คนไทยเท่าเทียมกันประเทศไทยเท่าทันโลก" ของพรรคอนาคตใหม่ คือ

1.) เปลี่ยนงบดำเนินการที่ไม่เกิดประสิทธิภาพ มาเป็นงบลงทุนเพื่อแก้ปัญหาประเทศ

2.) การจายอำนาจการตัดสินใจด้านงบประมาณจากส่วนกลาง ไปให้ท้องถิ่น

3.) เมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่เน้นพัฒนาเมืองเลือกลงทุนให้เป็นโครงการขนาดเล็กที่ตอบสนองชีวิตความเป็นอยู่ พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนที่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพดีขึ้นได้

4.) สวัสดิการสำหรับคนยากจน ต้องแปรให้เป็นสวัสดิการถ้วนหน้า

ชงจัดสรรงบฯ เริ่มต้นจากศูนย์ ตัดงบฯ กลาโหม 2 โครงการ

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังเสนอหลักการจัดสรรงบประมาณแบบ Zero-based budgeting หรือ งบประมาณทุกตัวต้องเริ่มต้นจากศูนย์ โดยจัดสรรให้ตามสิ่งที่หน่วยงานจะทำ ไม่ควรอิงจากการใช้งบประมาณในปีก่อนหน้ามาเป็นฐานในการขอหรือตั้งงบประมาณ โดยตั้งต้น งบประมาณที่จำเป็นทุกหน่วยงานไว้ที่ 7.7 แสนล้านบาทต่อปี นอกเหนือจากนี้ให้ตัดเป็น 0 บาท เเล้วพิจารณาตามโครงการที่จะทำเดินการของแต่ละหน่วยงาน โดยยกตัวอย่างกระทรวงศึกษาธิการมี 17 โครงการที่ไม่จำเป็น ที่สำคัญคือ โครงการการศึกษาเพื่อความมั่นคง 365 ล้านบาท โครงการสานพลังประชารัฐด้านการศึกษาและพัฒนาผู้นำ 338 ล้านบาท, โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมของชาติ 96 ล้านบาท ที่เป็นภาระของครู โดยเสียเวลาส่วนใหญ่กับการทำโครงการที่ส่วนกลางเป็นคนออกแบบมาซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ตัดส่วนงบกระทรวงกลาโหมอย่างน้อย 2 โครงการ 3.9 หมื่นล้านบาท เกี่ยวกับโครงการซื้อเรือดำน้ำลำ 36,000 ล้านบาทและยกเลิกทหารบริการ 3,100 ล้านบาทรวมถึง งบจัดนิทรรศการรต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานด้วย 

สำหรับวงเงิน 2.4 หมื่นล้าน ที่เป็นงบจังหวัดและงบกลุ่มจังหวัด ต้องกระจายเป็นงบท้องถิ่น โดยหลักที่สำคัญคือต้องไม่ใช้ข้าราชการในการจัดสรรงบ แต่จะต้องมาจากคนที่ประชาชนเลือกตั้งมา เพราะจะต้องรับผิดชอบกับประชาชน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ใช้งบจังหวัด ล้วนรับผิดชอบต่อผู้มีอำนาจส่วนกลางที่แต่งตั้งให้ไปทำหน้าที่

"ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าเรามีทรัพยากรเพียงพอ 3.2 ล้านล้านบาทต่อปี ทุกๆนาทีเรามีทรัพยากรเพิ่มขึ้น6 ล้านบาท เราจะพาประเทศไทยไปไกลกว่านี้ได้ ถ้าเราจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ จะพาประเทศไทยไปไกลกว่านี้ได้ จะสามารถสร้างสังคมที่คนเท่าเทียมกันได้ ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เราทำงานอย่างทุ่มเทเต็มที เพื่อปกป้องผลประโยชน์ ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน ให้สมกับที่ทุกท่านให้ความไว้วางใจพวกเรา หลังจากนี้ต่อไป จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น และเราจะตั้งทีมขึ้นมาตรวจสอบติดตามการใช้งบประมาณ 2563 ของรัฐบาลด้วย" 

ดันอุตสาหกรรมรถไฟรางเบา 4 จังหวัด วงเงิน 1 แสนล้านสร้างงานตามรายทาง

นายธนาธร ยังย้ำถึงงบลงทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยการสร้างอุตสาหกรรมใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยยืนยันว่า ถ้ายังไม่มีความคิดที่จะผลักดันโครงการขนาดเล็กในท้องถิ่นจะไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำในชนบท และระหว่างเมืองกับชนบทได้เลย พร้อมยกตัวอย่างที่จังหวัดขอนแก่น ในโครงการรถไฟสายสีแดง 2,600 ล้านบาท ระยะทาง 22.8 กิโลเมตร, ภูเก็ต 44,000 ล้านบาท ระยะทาง 60 กิโลเมตร, เชียงใหม่สายสีแดง 2,400 ล้านบาท 12 กิโลเมตร นครราชสีมา สายสีเขียว 8,000 ล้านบาท 11 กิโลเมตร 

โดยพรรคอนาคตใหม่ ต้องการผลักดันอุตสาหกรรมรถไฟที่มีความต้องการแต่ละพื้นที่ แทนที่จะนำเข้าจากต่างประเทศ โดยยืนยันว่า ระบบรถไฟมี 4 ตัวหลักๆ คือ 1.ระบบจำหน่ายตั๋ว 2.ตัวรถและช่วงล่าง 3.ตัวรางและระบบอนุมัติสัญญาณ 4.ระบบสายส่งพลังงาน โดยไทยมีศักยภาพทำได้คือระบบสายส่งพลังงานกับระบบรางและระบบตั๋ว เหลือเพียงระบบช่วงล่างและการอนุมัติสัญญาณ

นายธนาธร เชื่อว่า หากสร้างรถไฟรางเบา 4 จังหวัดข้างต้นจะใช้งบประมาณราว 102,000 ล้านบาท สามารถสร้างงานได้หลายอัตราและ เกิดธุรกิจหรือเมือง ตามรายทางด้วย ขณะที่รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินของรัฐบาล 168,718 ล้านบาท ที่เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน ซึ่งทุกคนสามารถเปรียยเทียบและพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการลงทุนภาครัฐได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง