ไม่พบผลการค้นหา
'มิ่งขวัญ' ประกาศเดินคนละทางกับอุดมการณ์กับพรรคเศรษฐกิจใหม่ ยันจุดยืนส่วนตัวยังอยู่ร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อแม้จะเป็น ส.ส.เพียงคนเดียวของพรรค ไม่หวั่นถูกพรรคขับพ้น ลั่นต้องยึดคำสัญญาตอนหาเสียง ไม่ตระบัดสัตย์ต่อคะแนนเสียงครึ่งล้าน

วันนี้ (3 ก.พ. 2563) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้า และส.ส. พรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงข่าวภายหลังที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ส่งหนังสือขอถอนตัวออกจาก 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยระบุว่า จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เป็นครั้งแรกที่ตนถูกกระแส ด่าทอต่างๆ นานา อีกทั้ง พฤติกรรมของ ส.ส. พรรคเศรษฐกิจใหม่ ในการโหวตสวนมติกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน หลังจากมีการโหวตสวนอย่างชัดเจน ได้มีการประชุม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้ถามตน รวมทั้ง นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ก็ถามถึงการโหวตสวน ตกลงจะเอาอย่างไร และควรทบทวนจุดยืนตัวเอง ซึ่งตนเห็นด้วยกับวิธีการนี้ คำไหนคำนั้นต้องชัดเจน ส่วนตัวก็เห็นด้วยกับวิธีการนี้เนื่องจากจะต้องมีความตรงไปตรงมา อย่างลูกผู้ชาย แต่พรรคเศรษฐกิจใหม่กลับมาออกหนังสือขอถอนตัวจากการเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่ส่วนตัวมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทุกพรรคเป็นพรรคประชาธิปไตยทั้งนั้น แต่ถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่มาจาก คสช. ก็คือพรรคพลังประชารัฐ โดยตนและพรรคเศรษฐกิจใหม่ได้อยู่อีกฝั่งหนึ่ง จึงเป็นที่มาของคำว่า 7 พรรคฝ่ายค้าน

นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ได้รับเชิญไปประชุมพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ได้มีมติถอนตัวออกจากฝ่ายค้าน ในเมื่อพรรคตัดสินใจอย่างนี้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.ไม่จำเป็นจะต้องทำตามมติพรรค ดังนั้นส่วนตัวจะยึดมั่นคำพูด รวมถึงสิ่งที่ได้หาเสียงกับประชาชนไว้แต่ต้น และเป็นจุดยืนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือจะยืนอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้จะเป็น ส.ส.คนเดียวของพรรคก็ตาม และส่วนตัวจะไม่ร่วมอุดมการณ์กับพรรคเศรษฐกิจใหม่อีกต่อไป

ในเมื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคและมีมติไม่ร่วมและถอนตัวจากพรรคฝ่ายค้าน “กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุว่า ส.ส. ไม่จำเป็นต้องทำตามมติพรรค ขอยึดมั่นเอาคำพูด สิ่งที่เคยพูดไว้ตอนหาเสียง ผมจะอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้จะเป็นคนเดียวตนก็จะยืนอยู่

"จึงขอประกาศแยกทางกับแนวทางของพรรคเศรษฐกิจใหม่อย่างเด็ดขาด แต่ทั้งนี้หากลาออกส่วนตัวก็จะไม่ได้ร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นอกจากนี้ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ส.ส. จะลาออกตอนไหนก็ได้ แต่ยังต้องการจะทำหน้าที่ในเรื่องการตรวจสอบรัฐบาลต่อ แต่ขณะเดียวกันพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะสามารถขับผมออกจากพรรคได้หากเห็นว่าโหวตสวนมติพรรค" นายมิ่งขวัญ กล่าว

นายมิ่งขวัญ ระบุว่า “ในเมื่ออุดมการณ์ไปด้วยกันไม่ได้ ผมถือว่าคำพูดการตระบัดสัตย์ และผมเป็นคนหาเสียงมาตลอด ผมจึงขอประกาศว่า ผมจะไม่ร่วมอุดมการณ์นี้กับพรรคเศรษฐกิจใหม่ต่อไป ผมขอประกาศแยกทางกับพรรคเศรษฐกิจใหม่เด็ดขาด ขอรักษาจุดยืนที่มีต่อประชาชน”

ซึ่งตนหวังว่าการแถลงข่าวครั้งนี้จะชัดเจนและเด็ดขาด ไม่ต้องมาถามอีกว่าจุดยืนตนอยู่ตรงไหนและคิดอะไร พร้อมขอยืนยันว่าตั้งแต่วันที่หาเสียงจนถึงวันนี้และจนสิ้นสุดสภานี้ถ้าตนยังอยู่ จะรักษาคำมั่นสัญญาและคำพูดของตน ส่วนคนอื่นตนบังคับไม่ได้ ให้ใช้วิจารณญาณเองว่าใครเป็นเช่นไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประกาศเด็ดขาดแต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะลาออก นายมิ่งขวัญ ชี้แจงว่า ถ้าลาออกวันนี้ก็ไม่มีสิทธิอภิปรายไม่ไว้วางใจ คนจำนวนครึ่งล้านเลือกเข้ามา ถ้าลาออกคนครึ่งล้านจะคิดอย่างไร และไม่ได้ยึดติดกับการเป็นรัฐบาล ส่วนเรื่องลาออก ถ้าพูดตรงๆ ก็ไม่ได้ยึดติด แต่ถ้าได้ทำประโยชน์กับประชาชนตนตรวจสอบได้ จะให้ทำหน้าที่ต่อหรือไม่ หรือถ้าอยากให้ตนลาออกก็ให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ขับออก ถ้าพรรคไม่ขับออกก็อยู่กันไปแบบนี้ อยู่โดยที่ตนจะไม่ทำตามมติพรรค

ถามว่าหากมีมติพรรคขับออกจะไปอยู่พรรคไหน นายมิ่งขวัญกล่าวว่า เร็วไปที่จะตอบว่าอยู่พรรคไหน แต่จะเลือกอยู่พรรคที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน 

เมื่อต่อถามว่า คิดอย่างไรกับคะแนนของพรรคเศรษฐกิจใหม่มาจากการหาเสียงของตนเองแต่กลับถูกคนในพรรคลอยแพ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ภาษากายที่ออกมานั้นมันกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ทั้งนี้ ถ้าพรรคเศรษฐกิจใหม่มาแถลงและมีข้อมูลไม่ถูกต้อง ตนจะไม่ทนนิ่งอีกต่อไปแต่โต้ตอบ พร้อมยืนยันไม่ทราบถึงแรงจูงใจที่ทำให้คนเราเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้

เมื่อถามว่า มองพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่แยกตัวออกจากฝ่ายค้านนั้นจะไปร่วม กับฝ่ายรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านอิสระ นายมิ่งขวัญ ระบุว่า ไม่สามารถตอบแทนได้ ทั้งนี้สงสัยว่าอะไรที่ทำให้อุดมการณ์เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายมิ่งขวัญ ระบุว่า เบื้องต้นได้แสดงความจำนงจะอภิปรายทั้งหมด 2 ช่วง ช่วงละ 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ ส.ส. คนอื่นๆ ของพรรคเศรษฐกิจใหม่จะมีการแถลงข่าวท่าทีอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง