ไม่พบผลการค้นหา
ช่วงเทศกาลกลิ่นอายโรแมนติกอย่างวาเลนไทน์ หรือลอยกระทง ‘ม่านรูด’ หรือ ‘โมเต็ล’ กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นน่าสนใจในสังคมไทย เพราะมันมักมาพร้อมๆ กับข่าวรณรงค์เรื่องเซ็กส์

หลายครั้งหลายหน รุ่นพี่ช่างภาพวัย 30 ปลายๆ (แหล่งข่าวไม่ประสงค์เอ่ยนาม) เคยถ่ายทอดประสบการณ์มันๆ สมัยแตกเนื้อหนุ่มให้ฟังว่า ประมาณเกือบ 20 ปีก่อนม่านรูดเฟื่องฟูสุดๆ ยิ่งช่วงเทศกาลพีคๆ อย่างวาเลนไทน์ หรือลอยกระทง ม่านรูดคนแน่นเอี๊ยด ห้องพักเต็มเหยียด หนุ่มสาวนิยมนัดเยกันถึงขนาดต้องนั่งรอต่อคิว

“พอลอยกระทงเสร็จ 3-4 ทุ่ม ก็พาแฟน หรือเด็กๆ ไปต่อม่านรูด แต่พอห้องมันเต็มก็ต้องนั่งคอย อารมณ์เหมือนต่อคิวเลย”

ผ่านมานานหลายปี ผู้เขียนด้วยวัยอ่อนกว่าเขาเกือบ 20 ปี ยังคงจดจำเรื่องราวเหล่านั้นขึ้นใจ

จนกระทั่งวันนี้ คืนวันเพ็ญเดือนสิบสองกำลังจะเวียนมาบรรจบอีกครั้ง ความฉงนสงสัยเกี่ยวกับสถานที่สานความสัมพันธ์ของคนหนุ่มสาวในอดีตก็ถาโถมเข้ามา เลยกลับไปซักไซ้ไล่เลียงเหตุการณ์ต่อจากช่างภาพหนุ่มใหญ่ ก่อนเขาจะฉายภาพเพิ่มเติมว่า

“ระหว่างยืนรอเห็นหน้ากันหมด ก็คิดเล่นๆ ในใจว่า ทุกคนก็เ-ี่ยนเหมือนกันหมด” ถ้อยคำบอกเล่าสิ่งที่ล่วงผ่านเข้ามาในชีวิตรุ่นพี่

การควงกันไปเปิดม่านรูดไม่ใช่เรื่องใหม่ มีมานานนมหลายยุคสมัยแล้ว ทว่าสังคมไทยในฐานะเมืองพุทธ หากมองจากภายนอกหลายคนยังคงอาจรู้สึกว่า ม่านรูดดูเป็นโซนโลกีย์ ลึกลับ เลวร้าย น่ารังเกียจ และไม่ค่อยนิยมมากเท่าไหร่ แต่รุ่นพี่คนเดิมคอนเฟิร์มชัดว่า พอช่วงเทศกาลมันกลับคึกคักมาก ผู้คนวุ่นวายเหมือนเป็นสถานที่ปกติทั่วไป

คำถามของเราคือ แล้วมันต้องเป็นเฉพาะช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ หรือลอยกระทงด้วยหรือ ซึ่งคำตอบน่าจะพอเดากันได้ไม่ยากคือ

“ฟิลลิ่งล้วนๆ อารมณ์พาไป เนื่องจากช่วงเวลาอยู่กับแฟนตอนกลางคืนมีไม่เยอะมาก ผู้หญิงบางคนอาจจะกลับบ้านดึกไม่ได้บ่อยๆ การกลับบ้านดึกคือ ‘ต้องมีอีเว้นท์’ และพอเทศกาลก็บอกพ่อแม่ว่า ไปลอยกระทงกับเพื่อน เลยทำให้โอกาสการอยู่ด้วยกันตอนกลางคืนมันยาวนานขึ้น และด้วยฮอร์โมนช่วงวัยรุ่นเลยกลัดมัน หมกหมุ่นอยู่กับเรื่องเพศสัมพันธ์มากหน่อย” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแกมหัวเราะติดตลก

ส่วนเหตุผลที่การเปิดม่านรูดกลายเป็นตัวเลือกหลักของหนุ่มสาวช่วงเทศกาลลอยกระทง เพราะสามารถใช้บริการแบบ ‘ชั่วคราว’ ซึ่งราคาไม่สูงมากนักหากปรียบเทียบกับโรงแรม โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กมหา’ลัยที่ไม่ได้เช่าห้อง หรือหอพัก

อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนการเข้าม่านรูดไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ใช่สิ่งอื่นไกล แต่ทุกๆ ปีภาครัฐมักออกมาแสดงความห่วงใย และเตือนคู่รักวัยรุ่นเรื่องเซ็กส์ในคืนวันลอยกระทงอยู่บ่อยๆ บางครั้ง

“ความจริงหนุ่มสาวสมัยใหม่ไม่ต้องพึ่งอีเว้นท์ หรือเทศกาลแล้ว เรื่องเพศน่าจะเปิดกว้างมากขึ้น ปรับตัวเข้ากับโลกกันมากขึ้น แต่การแก้ปัญหาของภาครัฐด้วยการสั่งปิดม่านรูดมันเป็นการแก้ปัญหาปลายทางแบบสุด-ีน คือมันต้องหาแนวทางส่งเสริมให้วัยรุ่นรู้เท่าทันเรื่องเพศตามบริบท รู้จักป้องกันดีกว่า รู้จักสวมถุงยางอนามัยดีกว่า (หัวเราะ) คือถ้าอยากจะเอาก็ต้องรู้ว่า เอาอย่างไรให้ปลอดภัย เอาอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบ ทั้งเรื่องโรค และการตั้งครรภ์” มิตรสหายมากประสบการณ์เสนอแนะ


ม่านรูดยังฮิตอยู่

ณ ม่านรูดแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย เราพบกับ พลอย (นามสมมุติ) หญิงสาวชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ นานถึง 15 ปี โดยในอดีตเธอทำงานตำแหน่งแม่บ้าน ก่อนย้ายมาทำแผนกต้อนรับเป็นเวลา 6 ปี และคุ้นเคยกับกลุ่มลูกค้าผู้มาใช้บริการห้องพักแบบ ‘ชั่วคราว’ เป็นอย่างดี 

จากประสบการณ์การทำงานพลอยยืนยันว่า บริการห้องพักแบบ ‘ชั่วคราว’ ได้รับความนิยมอย่างสูงช่วงเทศกาล


พลอยม่านรูด.jpg
  • พลอย (นามสมมุติ) พนักงานต้อนรับของโรงแรมม่านรูดในกรุงเทพฯ

“ลูกค้ามีหลายชาติ หลายวัย ทั้งคนไทย กัมพูชา พม่า เวียดนาม แต่ที่ได้รับความนิยมมากคือ ฝรั่ง กับอินเดีย ส่วนมากจะเลือกพักแบบชั่วคราว แต่ถ้าอายุน้อยกว่า 18 ปีจะไม่รับ จะถามเขาก่อนว่า อายุมากน้อยเท่าไหร่ ถ้าอายุต่ำกว่า 18 ปีจะบอกว่าเปิดให้ไม่ได้ เขาก็กลับไป”

ทุกวันนี้ แม้ลูกค้าจะลดลง แต่พลอยบอกว่ามันไม่ได้น้อยจนธุรกิจไปไม่รอดเหมือนที่หลายคนกำลังเข้าใจ ช่วงเทศกาลม่านรูดมีความคึกคักมากขึ้น ส่วนเวลาที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากสุดแน่นอนว่าเป็นตอนกลางคืน 

“ช่วงเทศกาลตอนกลางคืนลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษ ส่วนกลางวันไม่คึกคักเท่าไหร่ แต่ก็มีอยู่เหมือนกัน ลอยกระทงปีที่ผ่านมาคนเยอะมาก แต่ยังไม่รู้ว่าปีนี้จะเยอะหรือเปล่า ช่วงเทศกาลลูกค้าจะพูดกับเราดีกว่าปกติ อย่างตอนปีใหม่จะมาสวัสดีปีใหม่ บางคนมีซื้อของมาฝาก ถามว่าไม่ไปเที่ยวไหนหรอ กลับบ้านหรือเปล่า เราก็คุยทักทายกับลูกค้า 

“โรงแรมของเราลูกค้าประจำจะมาพักตลอด ส่วนคนที่มาครั้งแรกจะบ่นว่าไกลจากสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนเรื่องทิปถ้าเราบริการดีลูกค้าจะให้ โดยคนไทยให้หนักสุด ส่วนต่างชาติบางทีก็ไม่ให้เลย” พลอยทิ้งท้ายพร้อมบอกว่า ถ้าวันลอยกระทงได้ทำงานกะกลางวัน เธอจะได้ไปลอยกระทงหลังเลิกงาน 


โบกแท็กซี่เข้าม่านรูดเป็นเรื่องปกติ

ความนิยมเปิดม่านรูดใต้คืนวันเพ็ญเดือนสิบสองได้รับการการันตีจาก ประจิตร พอยัน ผู้ผ่านประสบการณ์ขับแท็กซี่มาร่วม 30 ปี เขายืนยันความฮอตช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ว่าลูกค้าล้นหลาม แต่หากเปรียบเทียบกับสมัยก่อนต้องยอมรับว่า ลูกค้าลดจำนวนลงเรื่อยๆ เพราะทางเลือกการเดินทางเพิ่มมากขึ้น 

“ส่วนใหญ่ช่วงเทศกาลลอยกระทงลูกค้าบางคู่ก็ให้ไปส่งตามโรงแรมชั่วคราว หรืออพาร์ทเม้นท์ให้เช่าที่มีการบริการลักษณะคล้ายกับโรงแรม เช่น แถวๆ หน้าราม เพราะพอเป็นอพาร์ทเม้นท์พวกเขาดูไม่เก้อเขิน ทำเหมือนกับตัวเองพักอยู่ในอพาร์ทเม้นท์นั้นจริงๆ” ลุงประจิตรเล่าระหว่างรอคิวเติมก๊าซเอ็นจีวีย่านสุทธิสาร


ลุงม่านรูด.jpg
  • ประจิตร พอยัน คนขับแท็กซี่ผู้มีประสบการณ์กว่า 30 ปี

ทุกวันนี้ แม้ลูกค้าไม่ค่อยคลาคล่ำเท่าเมื่อก่อน แต่พอเทศกาลลอยกระทงยังพบลูกค้าหนุ่มสาวบางคู่ให้ไปส่งตามม่านรูดอยู่บ้าง โดยมีทั้งคนไทย คนต่างชาติ และคนไทยพาต่างชาติไป

สมัยก่อน วิธีการเข้าม่านรูดห้ามเลดี้ เฟิร์ส (Lady First) และต้องให้ผู้ชายออกตัวก่อน เพื่อวัดใจความแมน แต่ปัจจุบันดูเหมือนมันเปลี่ยนไปแล้ว...

“ความต้องการของหนุ่มสาวสมัยนี้มีเยอะอยู่แล้ว (หัวเราะ) ไม่ว่าผู้หญิง ผู้ชาย พวกเขาไม่ค่อยเก้อเขินนะ จากเมื่อก่อนผู้ชายจะเป็นคนบอก (สถานที่) แต่เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็บอกบ้างแล้ว”

มากไปกว่านั้น ลุงประจิตรบอกต่อด้วยว่า สมัยก่อนลูกค้าบางคู่สำเร็จความใคร่กันบนรถแท็กซี่เลยด้วยซ้ำ

“ปิดๆ บังๆ ทำกันอยู่บนรถนี่แหละ เหมือนกับอยากรู้ว่า ทำบนรถมันสนุกขนาดไหน (หัวเราะ) คนขับแท็กซี่อย่างเราก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรนะครับ มันพูดลำบากอยู่เหมือนกัน จูบกันดังจ๊วบจ๊าบๆ” ลุงประจิตรเล่าพร้อมรอยยิ้ม 


reflection_t20_LRlerZ.jpg

'รีสอร์ต' เท่ากับม่านรูดเวอร์ชันใหม่

พอพูดคำว่า ‘ม่านรูด’ อาจสร้างความรู้สึกแง่ลบ หลังๆ ผู้บริการห้องพักชั่วคราวหลายเจ้าเลยเปลี่ยนตัวเองเป็น ‘รีสอร์ต’ ทำให้ลูกค้าบางคู่สบายใจยิ่งขึ้นเวลาเอ่ยชื่อ แต่รูปแบบการบริการ ‘ชั่วคราว’ ยังคงอยู่ และเพิ่มเติมความพิเศษด้วยการตกแต่งเป็นธีมสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ และบวกราคาสูงขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย

“คำว่า ‘รีสอร์ต’ คือม่านรูดเวอร์ชันใหม่ สมัยก่อน ‘ม่านรูด’ เป็นสรรพนามของการเข้าไปเยกัน พอกาลเวลาเปลี่ยนไปกลายเป็นคำพูดว่า เดี๋ยวๆ ไปเที่ยวรีสอร์ตแถวสะพานควายกันนะ ซึ่งมันให้ความรู้สึกดีกว่าการบอกว่าพาเข้าม่านรูดเยอะเลย

“สภาพของห้องพักก็ดีขึ้นด้วย คือต้องยอมจ่าย จากชั่วคราวแบบเดิมๆ อยู่ที่ 300-400 บาท ถ้าเป็นรีสอร์ตจะประมาณ 700-800 บาท แต่โอเคด้านความรู้สึกนะ และบางที่มีอ่างอาบน้ำด้วย” หนุ่มช่างภาพวัย 30 ปลายบอกเล่าความเปลี่ยนแปลง ซึ่งสะท้อนความพยายามสร้างโลกใหม่ให้ลูกค้ารู้สึกเบิกบานใจ

ในทางกลับกัน หากเหลียวมองมายังธุรกิจอาบอบนวด หรือนวดกระปู๋ รุ่นพี่มากประสบการณ์แสดงความเห็นว่า ไม่ค่อยนิยมช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์เพราะ ‘เด็กหมดตู้’ เด็กๆ ส่วนใหญ่มักกลับบ้าน หรือออกเที่ยว ทำให้ตัวเลือกน้อยลง

“ต้องจ่ายราคาเท่ากับ แต่ตัวเลือกจากหลายสิบคนเหลือแค่ห้าคน แต่ถ้าเป็นช่วงวาเลนไทน์ หรือลอยกระทงมันอาจจะยังเป็นตัวเลือกของคนโสด” ช่างภาพผู้ช่ำชองราตรี และโชกโชนนารีทิ้งท้าย

On Being
198Article
0Video
0Blog