ไม่พบผลการค้นหา
กรุงไทย-แบงก์ชาติ ยืนยันพร้อมสอบสวนหาข้อเท็จจริง และลงโทษเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ไม่ยึดหลัก market conduct กรณีเงินฝากลูกค้าหายจากบัญชีหลายแสนบาท

จากกรณีมีเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยโพสต์เฟซบุ๊กแจ้งว่า เงินในบัญชีหายไปเกือบ 300,000 บาท ทั้งที่ไม่ได้ถอนเงิน ไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ไม่มีแอปพลิเคชั่นโมบายแบงก์กิ้ง ตามที่ 'ข่าวสดออนไลน์' รายงานข่าวเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา และพบอีกกรณีเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา จากธนาคารแห่งเดียวกัน สาขาเดียวกัน ว่าเมื่อเดือน ก.ค. 2561 ถูกถอนเงินออกจากบัญชีมากถึง 450,000 บาท แต่เดือน ธ.ค. ปีเดียวกัน กลับมีผู้นำเงินจำนวนดังกล่าวกลับมาฝากใหม่

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย ได้ชี้แจงว่าได้นำเงินเข้าบัญชีลูกค้าเรียบร้อยแล้ว หลังจากนายกุนฑล ลิมป์ชยานนท์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่าเงินในบัญชีของมารดาที่ฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน หายไปจากบัญชีจำนวน 290,000 บาท โดยที่มารดาไม่ได้ทำรายการนั้น

พร้อมกับแจ้งว่า ธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีดังกล่าว ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ทำรายการ และธนาคารได้นำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเข้าบัญชีลูกค้าเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งธนาคารกรุงไทยเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภัยลูกค้าอย่างสูงมาในโอกาสนี้

ทั้งนี้ได้กำชับผู้จัดการสาขาทั่วประเทศให้ดูแลพนักงานอย่างใกล้ชิด และให้ยึดหลัก Market Conduct ในการให้บริการลูกค้าอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีมาตรการลงโทษผู้ที่ไม่ปฎิบัติตาม

ด้านนายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามปกติสถาบันการเงินจะมีกระบวนการภายในเพื่อดำเนินการสอบสวนเรื่องทุจริต และมีบทลงโทษอยู่แล้ว ส่วน ธปท. จะให้ความสำคัญต่อผลการสอบสวนและสาเหตุที่ทำให้เกิดการทุจริต และการดำเนินการแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก รวมถึงเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้ความสำคัญต่อการดูแลลูกค้าของสถาบันการเงิน

อนึ่ง หาก ธปท. ตรวจสอบพบการทุจริตจะมีการออกคำสั่งให้สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป