ไม่พบผลการค้นหา
นพ.ณัฐกร เผยผลวิเคราะห์จำนวนผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จในปี 2561- 2562 พบการดื่มสุราเป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดการฆ่าตัวตาย สำเร็จถึงร้อยละ 30

สำนักข่าวไทย รายงานว่า นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์เปิดเผยว่า ตลอดช่วงปีที่แล้วจนถึงปีนี้มีการฆ่าตัวตายในครอบครัวบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งมีการระบุสาเหตุว่ามาจากปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในการฆ่าตัวตายของบุคคลหรือการฆ่าคนในครอบครัวร่วมด้วย ไม่น่าจะเกิดจากสาเหตุหรือปัจจัยเดียว แต่มักมีหลายปัจจัย ทับถม ซับซ้อนกันมานาน ร่วมด้วย เช่น มีการวิเคราะห์จำนวนผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จในปี 2561 ถึง 2562 พบว่า ในจำนวนผู้ฆ่าตัวตายที่คาดว่ามาจากปัญหาเศรษฐกิจยังพบเหตุผลอื่นซ่อนอยู่ด้วยเช่น ปัญหาทางสุขภาพกาย คือมีอาการป่วยจิตเวช และ 30 เปอร์เซ็นต์ มักมีการดื่มสุราร่วมด้วย  16 เปอร์เซ็นต์กระทำการฆ่าตัวตายในขณะดื่มสุรา ซึ่งตนมองว่าการกระทำเช่นนี้เป็นอันตรายและเป็นสาเหตุสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสาเหตุปัญหา จากสภาพเศรษฐกิจ  นอกจากนี้ยังไม่นับรวมปัญหาอื่นๆเช่นปัญหาความสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัว

ส่วนภาวะซึมเศร้าที่มักพูดถึงมากว่าเป็นสาเหตุ เมื่อมีการฆ่าตัวตายเกิดขึ้น นั้น เป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตายสำเร็จเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น

“ผมใช้คำว่าสุราเป็นตัวเร่งให้เกิดการกระทำที่ขาดความยับยั้งชั่งใจมากกว่า สุราทำให้คนทำในสิ่งที่ไม่คิดจะทำหรือไม่เคยวางแผนมาก่อนนั้นทำได้ง่ายขึ้น รวมทั้งสุรายังสามารถเหนี่ยวนำทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ได้เช่นหงุดหงิด ฉุนเฉียว โกรธ รวมไปถึงซึมเศร้า  ซึ่งแน่นอนว่าคนที่คิดฆ่าตัวตายอาจจะมีการแว๊บเรื่องนี้ขึ้นมาในสมองแต่ยังไม่กล้าทำจนเมื่อดื่มสุราเข้าไป” นายแพทย์ณัฐกร กล่าวและว่า ดังนั้น สุราคือ ตัวการสำคัญที่ เป็นการผลักดันให้ความคิดเปลี่ยนเป็นการกระทำได้ง่ายขึ้น

นายแพทย์ณัฐกร ยังกล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวการฆ่าตัวตายของบุคคลในครอบครัวโดยเฉพาะผู้นำครอบครัวที่มักฆ่าคนในครอบครัวให้ตายตามไปด้วย ไม่มีข้อสรุปตายตัว เป็นเรื่องเฉพาะกรณีไป  ต้องมีการ สอบสวนสืบสวนหารายละเอียด ให้มากขึ้น 


อ่านข่าวเพิ่มเติม :