ไม่พบผลการค้นหา
การตรวจสอบ คสช. ยังไม่จบง่ายๆ แม้ว่าการตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตาม มาตรา 44 หรือ ‘กมธ.เช็คบิล คสช.’ ได้ถูกดับฝันกลางอากาศ หลังฝ่ายรัฐบาลขอให้โหวตใหม่ จนเป็นที่มาของสภาล่มไปถึง 2 ครั้ง

เพราะฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ อีกทั้งตามมาด้วยปรากฏการณ์ ‘งูเห่าสีส้ม-สีฟ้า’ ครั้งสำคัญ แถมเกิดรอยร้าวระหว่างฝ่ายค้านด้วยกันและฝั่งรัฐบาลด้วยกันเองตามมา

ล่าสุดคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมี ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ เป็น ประธาน กมธ. ได้ทำหนังสือเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะอดีตหัวหน้า คสช. ‘บิ๊กโด่ง’ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตผบ.ทบ. ‘บิ๊กหมู’ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช อดีต ผบ.ทบ. และ ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ซึ่ง 3 คนหลังเคยเป็น เลขาธิการ คสช. มาให้ข้อมูลกรณีละเมิดสิทธินักศึกษาและนักกิจกรรมการเมืองในยุค คสช.

แน่นอนว่าทั้ง 4 คน ไม่ได้เดินทางมาชี้แจงในการเชิญครั้งแรก แต่มีเพียง พล.อ.อภิรัชต์ ที่ส่งหนังสือชี้แจงมาเท่านั้น

โดย กมธ.กฎหมายฯ ระบุว่า ต้องการให้ ‘4 นายพล คสช.’ มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้ร้องเรียน หลังถูกดำเนินคดีในลักษณะ ‘ปิดปาก’ ผู้เห็นต่างให้มีภาระทางคดี เพื่อจะได้ไม่ต้องออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองยุค คสช. โดยคดีไม่ได้เกิดจากการไปก่อคดีอาญา

ทั้งนี้สาเหตุที่เชิญทั้ง 4 คน เพราะก่อนหน้านี้ได้เชิญ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผอ.สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก และผู้ชำนาญการ สำนักงานกอ.รมน.ภาค 4 ในฐานะอดีตฝ่ายกฎหมาย คสช. และ ‘เสธ.พีท’พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผบ.กรมทหารพรานที่ 22 ในฐานะอดีตหัวหน้าฝ่ายข่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ขอนแก่น มาชี้แจงไปแล้วครั้งหนึ่ง 

โดยทั้งคู่ได้ให้เหตุผลว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายใต้สำนักเลขาธิการ คสช. โดยมีเลขาธิการ คสช. เป็นผู้บังคับบัญชา ดังนั้นทาง กมธ.กฎหมายฯ จึงต้องเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ,พล.อ.อุดมเดช พล.อ.ธีรชัย และ พล.อ.อภิรัชต์ มาชี้แจง เพราะเป็น เลขาธิการ คสช.

ซึ่งทาง กมธ.กฎหมายฯ ระบุว่า การเชิญทั้ง 4 คนมานั้น ไม่ได้ต้องการเอาผิดทางกฎหมาย แต่อยากให้ใช้พื้นที่ของ กมธ.กฎหมายฯ เป็นที่พูดคุยกับผู้ร้องเรียน เพื่อนำมาสู่การสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งทาง กมธ.กฎหมายฯ ไม่ต้องการใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อให้ 4 คนมาชี้แจง เพราะจะมีบทลงโทษทางกฎหมาย หากไม่มาตามคำเชิญ

ประยุทธ์ กระทรวงกลาโหม อภิรัชต์ ทหาร กองทัพ 42CD-B474-EA0824AB1D9D.jpeg

ทั้งนี้เป็นที่เชื่อกันว่างานนี้โอกาสที่ทั้ง 4 คน จะเดินทางมาชี้แจงเป็นเรื่องยาก เว้นแต่ พล.อ.อภิรัชต์ ที่เคยเดินเข้าสภามาชี้แจง กมธ.ทหาร ที่นำโดย ‘เสธ.โหน่ง’พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.อนาคตใหม่ ในฐานะเป็นปธ.กรรมาธิการ ก่อนหน้านี้ หลังได้เชิญมาแลกเปลี่ยนด้านความมั่นคง หลังจัดเวทีทอล์กแผ่นดินของเราฯ ที่มีเนื้อหาชัดเจนในการกล่าวโจมตีพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ทั้งวาทะ ‘ฮ่องเต้ซินโดรม’ และพวก ‘ซ้ายจัดดัดจริต’ 

ซึ่งในครั้งนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้ส่ง ‘บิ๊กนัย’พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. มาชี้แจงแทน แต่ทาง กมธ.ทหาร ยังคงยืนยันต้องการพบกับ พล.อ.อภิรัชต์ ทำให้ ‘บิ๊กแดง’ ต้องรีบขึ้น ฮ. บินด่วนจาก จ.กาญจนบุรี ยกเลิกภารกิจช่วงบ่ายที่ พล.ร.9 กาญจนบุรี เข้ากรุงเทพฯ มาชี้แจงที่สภาทันที จึงทำให้มีการจับตาว่าการเชิญของ กมธ.กฎหมายฯ ครั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ จะเดินทางมาด้วยตนเองหรือไม่ 

ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุถึงเรื่องนี้ว่า ‘น่าจะจบได้แล้ว’ พร้อมย้อนเกล็ด กมธ.กฎหมายฯ หากส่งหนังสือเชิญมาอีกว่า เมื่อครั้ง กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็น ประธาน กมธ. ก็ไม่ได้เดินทางมาพบทั้ง 4 ครั้ง เพื่อให้มาชี้แจงกรณี ครม. ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ

“ขอดูก่อนว่า จำเป็นหรือไม่ หากจำเป็นก็จะไป แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ส่งหนังสือหรือ ส่งคนไปชี้แจง ความจริงน่าจะจบได้แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“คราวก่อน ผมก็ไม่ได้ไปตั้ง 4 ครั้ง เดี๋ยวค่อยว่ากัน ผมไม่ได้ท้าทายอะไรเขา แต่บางเรื่องควรจะเป็นเรื่องหรือไม่ จะจบหรือไม่จบ ว่ากันมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ธนาธร ปิยบุตร อนาคตใหม่ 0181.jpg

นอกจากนี้พรรคอนาคตใหม่เตรียมยื่นญัตติขอให้สภาตั้ง ‘กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขการป้องกันการทำรัฐประหาร’ ขึ้นมาอีกด้วย นำโดย ‘ปิยบุตร’ พร้อมชี้ให้เห็นว่าการรัฐประหาร คือ การล้มล้างการปกครองที่แท้จริง เพราะกระทำผ่านกลุ่มบุคคลและกองทัพที่ถืออาวุธ ในฉีกรัฐธรรมนูญนั่นเอง

ในสถาการณ์เช่นนี้หากรัฐบาลยังถือเสียงข้างมากในสภาได้ การจะตั้ง กมธ. ต่างๆเพื่อมา ‘เช็คบิล คสช.’ ก็เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจเพราะเคยพลาดมาแล้ว แถมอาจต้องงัดข้อกับ ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ ที่เป็นนักต่อรองตัวยง ในสภาวะ ‘รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ’ เช่นนี้

แม้ว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้ไปต่อ หักปากกาเซียนไม่ถูกยุบพรรค ในคดีล้มล้างการปกครอง หรือ คดีอิลลูมินาติ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสร็จสิ้น

แต่ใช่ว่าพรรคอนาคตใหม่จะชะล่าใจได้เสียทีเดียว เพราะยังมี ‘คดีเงินกู้พรรค’ 191 ล้านบาทรออยู่ ที่สำคัญทั้ง ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ‘ปิยบุตร’ ก็ออกมายืดอกยอมรับได้เตรียมตั้ง ‘พรรคสำรอง’ และมี ‘แพลนบี’ ไว้เรียบร้อยแล้ว

ในสภาวะที่ ‘อนาคตใหม่’ ถูกมองเป็น ‘วายร้ายตัวใหม่’ ของฝ่ายที่สนับสนุน คสช.เดิม ถือเป็น ‘มวยถูกคู่’ ที่ขึ้นสังเวียนชนกับ คสช. ในเวลานี้ แม้จะมีแผลไม่น้อย ผ่านคดีความต่างๆ ที่พรรคต้องต่อสู้จำนวนมาก ทำให้ถูกทอนกำลังไปไม่น้อยด้วย

แต่เกมนี้ ใครอยู่ ใครไป รู้กันอยู่ ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog